Posted on

รีวิวแบกเป้ไปเที่ยวเอง Switzerland with my bestie

5D*Guy July 23, 2011 Retrieved 19 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/7/6181/6071671987_70c7ced6f0_b.jpg Svetlana Peric July 16, 2011 Retrieved 19 JUL 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/8/7059/6981336511_8afa6c1e76_b.jpg Max Peter1 July 19, 2015 Retrieved 19 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/1/331/19209447164_24e45db6c3_b.jpg Marcel Van den Berge January 21, 2017 Retrieved 19 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/1/582/31618990584_ba72ee18a5_b.jpg Wesley van Drongelen August 14, 2016 Retrieved 19 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/5/4156/34440713230_3e7a1a0942_b.jpg Lucky Trips April 7, 2014 Retrieved 19 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/3/2920/13687187534_cabf4540ea_b.jpg Vlad Mandyev July 19, 2017 Retrieved 19 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/5/4329/35701386280_8ba9b96946_b.jpg Nino H June 7, 2009 Retrieved 19 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/3/2495/3803926367_4a4929c774_z.jpg?zz=1

ก่อนที่เราจะไปเที่ยวนะคะเราก็ต้องรู้ก่อนว่าช่วงไหนบ้างที่ควรไปเที่ยวเพราะสวิตเซอร์แลนด์มีช่วงเวลาที่น่าเที่ยวแตกต่างกันค่ะ เรามาทราบกันก่อนดีกว่าว่า สวิตเซอร์แลนด์นั้นมีภูมิอากาศยังไงกันบ้าง   สวิตเซอร์แลนด์นะคะ มีทั้งหมด 4 ฤดูค่ะ คือ ฤดูร้อน(มิ.ย.-ส.ค.) ฤดูใบไม้ผลิ(มี.ค.-พ.ค.) ฤดูใบไม่ร่วง(ก.ย.-พ.ย.)และฤดูหนาว(ธ.ค.-ก.พ.) โดยแต่ละฤดูก็จะมีอุณหภูมิ เอกลักษณ์ รวมถึงบรรยากาศเฉพาะที่แตกต่างกันออกไป ส่วนใหญ่ของนักท่องเที่ยวจะมากันในช่วงเดือนพฤษภาคม จนถึงเดือนกันยายนค่ะ เพราะช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงที่มีอากาศดีมากที่สุดของปี  แต่ราคาห้องพัก ตั๋วเครื่องบินก็จะมีราคาสูง แต่ถ้าไปในช่วงเดือนเมษายนและเดือนตุลาคม อากาศจะหนาวกว่า นักท่องเที่ยวจะน้อยกว่าทำให้ห้องพัก และตั๋วเครื่องบินในช่วงนี้ราคาถูกกว่า เพราะฤดูนี้อากาศกำลังเย็นสบายไม่หนาวเกินไปสำหรับคนที่ไม่ชอบอากาศหนาวก็ไปเที่ยวได้สบายๆเลยค่ะ  อุณหภูมิจะอยู่ที่ ประมาณ 3-17 องศาเซลเซียส  สรุปสวิสไปได้ทุกฤดู เพราะแต่ละฤดูก็จะมีความแตกต่างกัน สวยงามต่างกัน แต่ข้อจำกัดของที่นี่คือ ค่าครองชีพที่แพงเป็นอันดับต้นๆ ของยุโรปค่ะ


วันที่ 1 ( ศุกร์ที่ 13 เม.ย. —–> สตราสบูร์ก 7-18 ° C มีฝน 70% )


เรากับเพื่อนอยู่ปารีส เราเลยเดินทางโดยรถประจำทาง จาก Paris Gallieni จริงๆเราว่าขึ้นรถไฟจะดีกว่าเพราะเร็วกว่ามากแต่ช่วงที่เราไป Strasbourg มีงานอยู่รถไฟเลย fullybooked หมด ขึ้นรถตอน 8 โมงเช้า ถึงเมือง Strasbourg เป็นเมืองในแคว้นอาลซัสที่โด่งดังของประเทศฝรั่งเศสนี่เอง ก็ประมาณ14:30 ซึ่งรวมๆแล้ว 6 ชั่วโมงเกือบๆ 7 ชั่วโมง ค่าโดยสารก็ประมาณ € 19.00 ( 733.22 บาท) ก็ถือว่าไม่แพงนะคะแถมได้นั่งรถชมวิวสองข้างทางด้วย

Will Swain April 8, 2017 Retrieved 19 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/5/4182/34426037145_da56b7a879_b.jpg
Bus from Paris Gallieni to Strasbourg

แต่ถ้าเพื่อนๆอยู่ไทย ก็สามารถนั่งเครื่องบินไปลง Strasbourg ได้เลย ปกติเราจองตั๋วกับ บริษัทตระกูลเฉิน ผ่านเว็บไซต์ได้ด้วยตนเอง  หรือ จะโทรไปให้พี่พนักงานเค้าจองให้หรือจะแอดไลน์ไปก็ได้นะคะตามลิ้งค์นี้เลย LINE ID

Perry Tak April 13, 2013 Retrieved 19 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/9/8525/8678936758_f3f06ca78a_z.jpg
ibis Strasbourg Centre Petite France

ที่อยู่โรงแรม 18 Rue du Faubourg-National, 67000 Strasbourg, ฝรั่งเศส

ถึงเมือง Strasbourg ไปเก็บของกันก่อนเนาะจะไปเที่ยวต่อแบบสบายๆ  เราก็เดินทางกันต่อโดยรถบัสซื้อบัตรตรงนั้นแ้วนั่งแค่ 10 นาทีเพื่อก็ถึงโรงแรม Hotel ibis Strasbourg Centre Petite France แต่ถ้านั่งรถไฟมาลงสถานี Strasbourg ก็ถึงโรงแรมเลยเพราะโรงแรมนี่อยู่ติดสถานีมากๆ แถวๆสถานีจะมีโรงแรมเยอะมากแค่ของ ibis เองก็อย่างน้อย 5 โรงแรมแล้ว เพื่อนๆต้องดูชื่อโรงแรมให้ดีก่อนจองนะคะ ส่วนโรงแรม Hotel ibis Strasbourg Centre Petite France ไกลกว่า ibis อื่นไม่กี่ก้าวแต่ถูกกว่าพอสมควรเราจึงขอแนะนำเลยค่ะ ราคาที่เราจองไว้ก็ประมาณ € 75 (2,908.83 บาท ) เพื่อความสะดวกเราก็ จองจากบริษัทตระกูลเฉิน แถมยังได้ราคาที่ถูกอีกด้วย 

dhakulchan1
Strasbourg

หลังจากแวะเก็บกระเป๋าที่โรงแรม เราก็ซื้อ kebab ร้านแถวนั้น เดินเล่นไปกินไปแบบชิวๆ

สถานที่แรก

เดินแป๊บเดียวด้วย Google Map แป๊บเดียวก็ถึง สะพานปง กูรแวร์ต(Pont Couverts) เป็นสะพานคนเดินที่ทอดยาวข้ามผ่านแม่น้ำอิล (River III)

dhakulchan2
Pons Couverts

ระหว่างเดินบนสะพานเพื่อนๆจะได้สัมผัสกับความสวยงามของบ้านเรือนที่เรียงรายติดกันอยู่ริมแม่น้ำและได้เห็นวิถีการดำรงชีวิตของผู้คนในเมืองได้อย่างใกล้ชิดอีกด้วย ไม่มีค่าเข้าชมนะคะ เข้าชมได้ทุกวันตลอดเวลาค่ะ  แผนที่ Ponts Couverts, 67000 Strasbourg, ฝรั่งเศส แต่จากจุดนี้เราจะไม่ได้เห็นวิวที่เค้าถ่ายรูปกันนะคะ เราต้องเดินเข้าไปที่เขื่อนเพื่อจะมองเข้ามาที่สะพาน อยู่ใกล้นี่เอง

เขื่อนบาราจ วูบอง(Barrage Vauban) เขื่อนนี้ เป็นสถาปัตยกรรมที่เป็นทั้งสะพานและเขื่อนกักเก็บน้ำที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งเมืองสตราซบูร์ ทอดยาวข้ามผ่านแม่น้ำอิล ซึ่งคุณสามารถขึ้นไปชมวิวได้ที่เหนือสันเขื่อน 

salomon10 April 21, 2018 Retrieved 13 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/1/937/27750262388_2e8fc735b9_b.jpg Ole Steffensen July 13, 2015 Retrieved 13 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/1/460/19441744644_cb15b97349_b.jpg
Barrage Vauban

จากจุดนี้ทางด้านหน้าเพื่อนๆสามารถเห็นสะพานปงกูแว็ตต์ (Ponts Couverts)ที่เราได้ไปเที่ยวกันมาแล้ว  ตัวสะพานจะแบ่งออกเป็นสามช่วงมีลักษณะเป็นสะพานโค้ง ซึ่งในอดีตสะพานนั้นทำจากไม้และมีหลังคากระเบื้องคลุมอันเป็นที่มาของชื่อ “ปง กูแวร์ต” นั่นเอง การชมวิวจากจุดนี้นับที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่มายังสตราซบูร์เลยก็ว่าได้ ไม่มีค่าเข้าชมนะคะ ส่วนเวลาทำการก็เปิดให้บริการทุกวันตลอดทั้งปี ตั้งแต่ เวลา 8.00 น. – 19.00 น.ค่ะ  แผนที่ Place du Quartier Blanc, 67000 Strasbourg, ฝรั่งเศส

Rich3012 December 30, 2011 Retrieved 13 JUL 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/8/7385/9148029207_68f7ac16f7_b.jpg David Harmantas December 28, 2016 Retrieved 13 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/5/4187/33608646404_8ebd5d40a5.jpg
Pons Couverts

สถาที่ที่สองค่ะ

สถานที่ีที่สองนี้อยู่ไกลไปอีกท 1 กิโลเมตร ซึ่งก็คือ Cathédrale Notre-Dame de Strasbourg หรือ อาสนวิหารแม่พระแห่งสทราซบูร์ นั่นเอง

dhakulchan3
Cathédrale Notre-Dame de Strasbourg

เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิกที่มีฐานะเป็นอาสนวิหาร ตั้งอยู่ที่เมืองสทราซบูร์ แคว้นกร็องแต็สต์ ประเทศฝรั่งเศส  ส่วนหลักของสถาปัตยกรรมเป็นแบบโรมาเนสก์ แต่ยังมีส่วนประกอบที่สำคัญของสถาปัตยกรรมแบบกอทิกตอนปลายที่งดงามที่สุดแห่งหนี่ง โดยมีแอร์วีน ฟ็อน ชไตน์บัค สถาปนิกชาวเยอรมัน เป็นผู้ดูแลการออกแบบและก่อสร้าง ซึ่งที่นี่มีนักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมปีละประมาณ 4 ล้านคน

Vlad Mandyev July 19, 2017 Retrieved 16 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/5/4329/35701386280_8ba9b96946.jpg
Cathédrale Notre-Dame de Strasbourg

ติดๆกับ Cathédrale Notre-Dame de Strasbourg ก็จะมี Palais Rohan เที่ยวกันมาสักพักก็เริ่มหิวแล้ว เรามาหาอะไรอร่อยๆทานกันดีกว่า เราเลือกที่จะกับไปแถว Place du Marche เดินตรงมาแถว River III

dhakulchan4
Place du Marche

มีร้านอาหารเยอะแยะเลยค่ะ มาที่นี่แล้วเลยอยากทาน choucroute เจอร้าน Le Gruber ที่มีโปร 1 แถม 1ก็เลยทานร้านนี้กับเพื่อนเลยค่ะ แล้วก็สั่ง foei gvas อร่อยมากค่ะ ส่วน choucroute ไม่ค่อยอร่อยสำหรับเราแต่ให้ปลาเยอะดี อิ่มมากกกก

dhakulchan5
Le Gruber

ทั้งเที่ยวทั้งกินเหนื่อยมาทั้งวันวันและกลับไปที่ซุกหัวนอนกันดีกว่าค่ะ ( Hotel ibis Strasbourg Centre Petite France ) จะนั่งรถหรือจะเดินกลับก็ได้นะคะ 15 นาทีเอง


วันที่ 2 ( เสาร์ที่ 14 เม.ย. —–>Montreux  8-18 ° C )


เช็คเอาท์ออกจากโรงแรม ( Hotel ibis Strasbourg Centre Petite France ) เดินทางต่อด้วย รถไฟที่อยู่ใกล้ที่พักเราเอง เราจองรถไฟจาก Strasbourg 06:51 ถึง Basel ประเทศสวิตเซอร์แลนด์  08:20 รวมๆแล้วก็ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง  ราคาค่าเดินทาง  € 18.50 ( 719.91 บาท ) แต่วันนั้นรถไฟรอบนี้ strike ค่ะต้องรออีก 3 ชั่วโมง เป็นรอบต่อไปที่จะไป Basel เราเลยกลับไปนั่งเล่นที่โรงแรม

พอเราขึ้นรถไฟไปถึง Basel เรากับเพื่อนก็ซื้อบัตร Swiss Travel Pass Youth สำหรับ 4 วันที่สถานีเลยค่ะ ประมาณ  231 CHF/คน ( 7711.09 บาท/คน ) ต่อมาเราก็สามารถเดินทางโดยรถไฟจาก Basel ไปยัง Montreux ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 40 นาที ได้แบบไม่เสียเงิน ด้วยบัตร SWISS PASS นี่เอง ขอบอกไว้ก่อนว่าที่สถานี Basel มีขนมและของกินเยอะมากๆและอร่อยมากเราซื้อไปทานระหว่างนั่งรถไฟ เป็นข้าวกลางวันไปเลย

SWISS PASS

ซึ่งไอ้เจ้าบัตรนี่มีหลายประเภทอยู่ค่ะแต่ที่เรากับเพื่อนซื้อคือบัตรสำหรับผู้โดยสารที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไปจนถึง 26 ปี ณ วันเดินทาง แนะนำให้เพื่อที่กำลังคิดเดินทางไป สวิตเซอร์แลนด์ ซื้อบัตร SWISS PASS ค่ะเพราะจะช่วยทำให้เราเดินทางในสวิตเซอร์แลนด์ง่ายขึ้นค่ะ แต่เพื่อนอาจสงสัยว่าไอ้บัตร SWISS PASS เนี่ยมันคืออะไรใช่มั้ยคะ ไม่ต้องกลัวค่ะเราไปหาข้อมูลเพิ่มเติมมาให้เพื่อนๆด้วย

http://www.swissfanclub.com/wp-content/uploads/2017/12/sshot-30.png
ตารางราคา SWISS PASS
  • Regular = ตั๋ว 1 ใบ ต่อ ผู้โดยสาร 1 ท่าน
  • Adult = ผู้โดยสารที่มีอายุเกิน 26 ปี ณ วันเดินทาง
  • Senior = ผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ณ วันเดินทาง ซึ่งสวิสพาสไม่มีราคาสำหรับผู้สูงอายุ
  • Youth = ผู้โดยสารที่มีอายุไม่ถึง 26 ปี ณ วันเดินทาง
  • Child = เงื่อนไขของเด็กให้ดูรายละเอียดด้านล่าง
  • เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปี ณ วันเดินทาง : ฟรี เมื่อเดินทางกับบิดา และ/หรือ มารดา ซึ่งทางบริษัทฯ จะออกบัตรสำหรับเด็กที่เรียกว่า Family Card ให้โดยไม่เสียค่าใข้จ่าย
  • เด็กที่มีอายุระหว่าง 6 ปี – ต่ำกว่า 16 ปี ณ วันเดินทาง และไม่ได้เดินทางกับบิดา และ/หรือ มารดา เสียค่าใข้จ่ายที่ราคาครึ่งหนึ่งของราคา Adult Regular.
  • เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ปี ณ วันเดินทาง : เดินทางฟรีการทำ Refund จะได้เงินคืน 85% ก็ต่อเมื่อตั๋วไม่มีการใช้ และต้องทำภายในระยะเวลา 1 ปี นับจากวันออกตั๋ว
  • กรณีตั๋วหายหรือถูกขโมยไม่สามารถทำการ Refund คืนได้
MKRBus September 25, 2017 Retrieved 13 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/5/4460/36602647094_c947e7e5bb_b.jpg Franky De Witte July 22, 2014 Retrieved 13 JUL 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/6/5552/14648653039_9a8ca27463_b.jpg
รถโพสต์บัส (Post Bus) , รถไฟแห่งชาติสวิส (SBB CFF FFS)

สำหรับบัตร SWISS PASS นะคะ เป็นบัตรเดินทางเฉพาะของนักท่องเที่ยวต่างประเทศค่ะ ที่เข้ามาท่องเที่ยวในสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อใช้สำหรับเดินทางท่องเที่ยวในประเทศสวิตเซอรแลนด์ค่ะ  โดยแค่บัตร SWISS PASS ใบเดียวนะคะเพื่อนๆก็สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ฟรีเกือบทุกที่ในสวิตเซอร์แลนด์ โดยไม่จำกัดเที่ยวและระยะทาง, นั่งรถไฟแห่งชาติสวิส (SBB CFF FFS) ฟรีนั่งรถโพสต์บัส (Post Bus) ฟรี, นั่งเรือล่องแม่น้ำฟรี, เข้าชมพิพิธภัณฑ์ต่างๆ กว่า 480 แห่งฟรี, ใช้เป็นบัตรลด 50% สำหรับขึ้นเขา,

Turboff January 19, 2014 Retrieved 16 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/3/2865/12049173566_135350756d.jpg deltrems December 26, 2010 Retrieved 16 JUL 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/6/5041/5299427635_9488d9294f.jpg Serendigity June 13, 2002 Retrieved 16 JUL 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/8/7404/16587233782_d0327df16b.jpg

Rigi , Schilthorn , Stanserhorn

เขาที่ขึ้นฟรีในปี 2018 นี้ ก็จะมี
Mt. Rigi ยังคงขึ้นฟรีอยู่สำหรับปี 2018
Mt. Schilthorn สำหรับปี 2018 นี้ขึ้นฟรีเลยจ้า
Mt. Stanserhorn สำหรับปี 2018 นี้ขึ้นฟรีเลยจ้า

Andreas Lachmuth October 29, 2014 Retrieved 16 JUL 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/8/7507/15226609693_b3c3967165.jpg kattebelletje July 12, 2011 Retrieved 16 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/7/6134/5951625582_aa2ee4a40f.jpg LisaMinitti November 7, 2015 Retrieved 16 JUL 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/6/5726/22487115508_cd2755172c.jpg
Chateau de Chillon ,La Maison du Gruyère ,Maison Cailler

สำหรับพิพิธภัณฑ์ ที่เข้าร่วมกับ SWISS PASS สามารถเข้าฟรีในปี 2018 ก็จะยังมี
Chateau de Chillon เข้าฟรี
Olympic Museum เข้าฟรี
FiFa Museum เข้าฟรี
La Maison du Gruyère (cheese factory) เข้าฟรี
Maison Cailler (chocolate factory) เข้าฟรี
Swiss Museum of Transport ใช้ SWISS PASS ลด 50%

Montreux

roli_b August 13, 2017 Retrieved 16 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/5/4439/35759765913_3e9c83c7eb.jpg
Montreux

หลังจากนั่งมาเกือบ 3 ชั่วโมง ก็ได้ถึง Montreux แล้ว นั่งรถไฟเหนื่อยจังไป CHECK-IN กันค่ะ วันนี้เราจะพักกันที่  Eurotel Montreux ห้อง Privilege พร้อมระเบียงและวิวทะเลสาบได้ ราคา 195 ยูโร/สองคน ( 7588.27 บาท )

Lucien Muller October 10, 2013 Retrieved 16 JUL 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/8/7298/10402786203_54f55d872d.jpg
Eurotel Montreux

ถึงค่าห้องจะแพงนิดหน่อยแต่วิวก็แพงมาก มองออกไปก็จะเห็นทะเลสาบเจนีวา เพราะโรงแรมอยู่ติดทะเลสาบเลยค่ะ พอหารค่าโรงแรมกับเพื่อนแล้วก็ถือว่าค้มสุดๆไปเลย

dhakulchan6
Room

ที่อยู่โรงแรม Grand’ Rue 81, 1820 Montreux, สวิตเซอร์แลนด์

สถานที่แรก

สำหรับวันนี้เรามาเริ่มกันที่ ถนนเรียบทะเลสาบเจนีวา (Quai Edouard-Jaccoud) ซึ่งอยู่ตรงหน้าโรงแรมที่เราพักกันเลยค่ะชนิดที่แบบว่าก้าวลงจากบันไดโรงแรมปุ๊บถึงปั๊บ

dhakulchan7
View

 

เราสามารถเดินเลียบทะเลสาบเจนีวาซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญของเมือง บริเวณโดยรอบทะเสสาบเต็มไปด้วยสวนสาธารณะและสวนหย่อมที่สวยงาม หาซื้อไอติมมากินระหว่างเดินเล่นก็ฟินมาก ลองทำดูได้ค่ะ เพราะตรงนี้เป็นที่ที่ชอบที่สุดสำหรับทริปนี้แล้ว

สถานที่ที่สอง

การเดินทางเพื่อนๆสามารถนั่งรถบัสรถบัสหมายเลข 1 จากถนนเลียบทะเลสาบหรือโดยสารรถไฟท้องถิ่นจากสถานี Montreux ไปยังสถานี Veytaux Chillon ได้เลย เดินไปเลื่อยๆ หรือจะนั่งรถไฟไป Chillon Castle ก็ได้นะคะ ไปไหนมาไหนที่ SWISS  ในช่วง 4 วันแรกก็ฟรีหมดด้วย SWISS PASS อยู่แล้วค่ะ

Château de Chillon หรือ Chillon Castle เป็นปราสาทที่ตั้งอยู่บนเกาะขนาดเล็กในทะเลสาบเจนีวาค่ะ ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองMontreux ไม่ปรากฏว่าปราสาทหลังนี้สร้างขึ้นเมื่อปีใดไหนนะคะ แต่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ควบคุมเส้นทางการสัญจรระหว่างบูร์กอญกับช่องเขากร็อง-แซ็ง-แบร์นาร์  ต่อมาในศตวรรษที่ 16 ปราสาทถูกดยุกแห่งซาวอยใช้เป็นที่คุมขังพระและนักโทษทางการเมือง ในปัจจุบัน ปราสาทหลังนี้เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าเยี่ยมชม

James Bennett September 26, 2010 Retrieved 16 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/5/4150/5030030822_78c51743b3_b.jpg Xan WHITE May 12, 2018 Retrieved 16 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/1/912/27252569237_7450bced85_b.jpg Werner Böhm July 30, 2014 Retrieved 16 JUL 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/6/5574/14783435452_9ab8e0a658_b.jpg
Chillon Castle

การเยี่ยมปราสาทเป็นเหมือนการย้อนเวลากลับ คุณสามารถเยี่ยมชมห้องใต้ดินพร้อมซุ้มประตูแบบโกธิคลานขนาดใหญ่ห้องโถงที่เป็นทางการห้องนอนส่วนตัวและโบสถ์ยุคกลาง

ที่อยู่Chillon Castle Avenue de Chillon 21, 1820 Veytaux, สวิตเซอร์แลนด์

สถานที่ที่สาม

ไปค่ะเหนื่อยแล้วไปหาของกินกันที่ Vevey เดินทางกันอีกแล้วจะไปด้วยรถบัสหรือรถไฟก็ได้ค่ะจากตรงนี้ ถ้ายังไม่หิวเราสามารถเดินเล่นรอบ ๆ ถนนเล็ก ๆ ของเมืองเก่า ได้นะคะ สถานที่ท่องเที่ยวที่แนะนำในเมือง Vevey นี้นะคะ คือ แกรนด์เพลส (La Grenette) โบสถ์เซนต์มาร์ติน  ตลาดพื้นบ้านของ Vevey หรือที่รู้จักในฐานะ Marchés Folkloriques โดยปกติแล้วมีผู้เข้าชม 2000 คนในแต่ละวันและค่อยรับประทานอาหารเย็นกัน มื้อนี้นะคะเราขอแนะนำร้าน Le Mazot

irisnn chen October 23, 2006 Retrieved 19 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/1/80/277327591_23eccf5e6b_z.jpg Daniel Lobo July 9, 2009 Retrieved 19 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/3/2670/3789087431_60f07f1b89_b.jpg Stephen Perez 1970 July 22, 2013 Retrieved 19 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/3/2877/9347010898_46e761f8cb_o.jpg
Le Mazot

เป็นร้านอาหารสไตล์ครอบครัวขนาดเล็กที่ให้บริการอาหารสไตล์บราสเซอรี่แบบฉบับของสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่ในซอยเล็ก ๆ ในเมืองเก่าของ  ซึ่งห่างจาก Place du Marchéและ Lake Geneva เพียงไม่กี่ก้าว เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับเนื้อสัตว์ที่มีซอส “Mazot”ร้านจะปิดวันพุธทุกวันและอาทิตย์นะคะตอน 12.00 น ที่อยู่ของร้านค่ะ Le Mazot, Rue du Conseil 7, 1800 Veveyอิ่มแล้วรู้สึกหนังตาเริ่มหย่อนแล้วสิกลับห้องไปพักกันดีกว่าค่ะ ( Eurotel Montreux )


วันที่ 3 (วันอาทิตย์ที่ 15 เมษา —–>Wilderswil / Blausee  5-12 ° C)


ตื่นเช้ามาเราก็เห็นวิวทะเลสาบฟินมาก

dhakulchan8
morning

อาบน้ำเสร็จเราก็ซื้ออาหารเช้าจาก supermarket มานั่งทานริมทะเลสาบไม่กี่ก้าวจากโรงแรม ก่อนที่เราเช็คเอาท์ออกจากโรงแรม ( Eurotel Montreux) เดินทางต่อด้วย รถไฟจาก Montreux ไปยัง Wilderswil ใช้เวลาก็ประมาณ  2 ชั่วโมงครึ่ง ราคาปกติ: CHF 78.60 ( 2613.88 บาท ) ส่วนถ้าบัตรท่องเที่ยว Half-Fair: CHF 39.30 (1306.94 บาท ), ส่วนบัตรเดินทาง Swiss Travel: CHF 0 เฮ้ยยยยยมันดีตรงนี้แหละ บัตร  SWISS PASS ฟรีอีกแล้ว

Adnan Saulat December 5, 2007 Retrieved 17 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/5/4021/4297881881_578b995ae9_b.jpg
Wilderswil

จากนั้นเมื่อเราถึง Wilderswil เราก็เช็คอินเข้าโรงแรม Jungfrau Hotel กันก่อนเก็บข้าวของแล้วไปลูยเที่ยวกัน แต่รอบนี้นอนที่นี่ 2 คืนนะจ๊ะห้องที่พวกเราจองเป็นห้องคู่ราคาประหยัด พร้อมวิว Jungfrau จะรวมอาหารเช้าแล้ว ก็ขี้เกียจไปหากินเองอ่ะ 555555  2 คืน 275 ยูโร (9172.1บาท)

elenaleslie April 20, 2011 Retrieved 17 JUL 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/4/3321/5731886862_377ceac1bf_b.jpg Paul Turner April 18, 2013 Retrieved 17 JUL 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/6/5483/14501997101_fd843cb3a5_b.jpg
Jungfrau Hotel

ที่อยู่โรงแรมค่ะ Furkastrasse 6, 3988 Obergoms VS, สวิตเซอร์แลนด์

สถานที่แรก

โรงแรมอยู่ใกล้กับรถไฟแต่เวลาไปเที่ยวต้องเปลี่ยนหลายรอบหน่อย จากโรงแรม เราจะนั่งรถไฟเสำรวจเมือง Lauterbrunnen กัน ซึ่งเป็นทางผ่านเมืองนี้นะคะ เป็นหมู่บ้านในรัฐแบร์นของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่กลางหุบเขาสูงและชัน ด้วยทัศนียภาพที่สวยงามจึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวใฝ่ฝันว่าต้องมาสักครั้ง

Mandy Cheng September 29, 2007 Retrieved 17 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/3/2040/2019498379_4e4961e515_b.jpg Noel Reynolds May 28, 2012 Retrieved 17 JUL 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/8/7226/7297409636_f381dec127_b.jpg zu April 27, 2015 Retrieved 17 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/1/705/21694880615_44b0c9ec3a_b.jpg
Lauterbrunnen

ที่อยู่สถานที่ Stutzli 460, 3822 Lauterbrunnen, สวิตเซอร์แลนด์

เราเคยตั้งคำถามกับเพื่อนว่าเมืองนี้มีอะไรทำไมนักท่องเที่ยวถึงอยากไปมากจนได้มาเองถึงรู้ว่าที่นี่มันโครตธรรมชาติเลย อากาศโครตบริสุทธิ์ เมืองโครตสวย คนที่นี่ก็เป็นกันเอง สำหรับใครที่ชอบเที่ยวแบบธรรมชาติ เราขอแนะนำที่นี่ค่ะ คือไปแล้วแบบว่าเงินที่จ่ายไปมันโครตเกินคุ้มค่า ประทับใจมากๆค่ะ

เนื่องจากเราไม่ได้ขึ้นรถไฟแต่เช้า เรากับเพื่อนก็เลยต้องเลือกไประหว่าง  กับ Blausee ถึงเาเลืกไป Blausee กันเราก็หาข้อมูลเรื่อง Trummelbach falls มาฝากเพื่อนๆแล้วนะคะ

Trummelbach falls

เพื่อนๆนั่งรถบัสจากสถานี Lauterbrunnen โดบนั่งรถ Post Bus สาย 141 ไปที่ Trümmelbachfälle 3 ป้ายเท่านั้นก็ถึงแล้วค่าาาา ซึ่งเพื่อนควรใช้บริการนั่งรถแบบ ROUNDTRIP นะคะ ก็คือนั่งไปแล้วก็นั่งกลับด้วยค่ะหรือใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศก็สามารถซื้อบัตรแค่ขาไป ส่วนขากลับเดินกลับชมหมู่บ้านชมธรรมชาติก็ได้นะคะ

The Transport Dictator July 21, 2016 Retrieved 17 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/9/8832/28189098310_a4b34ffd6d_b.jpg Liam Cheasty August 13, 2009 Retrieved 17 JUL 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/8/7150/6775138151_5798508d82_b.jpg
Post Bus , Trümmelbachfälle

อัตราราคารถก็จะประมาณนี้ค่ะถ้าเป็นราคาปกติ: CHF 7.20 (240.43บาท) , บัตรท่องเที่ยว Half-Fair: CHF 3.60 (120.21บาท) , บัตรเดินทาง Swiss Travel: CHF 0 บัตร SWISS PASSฟรีอีกแล้วค่ะ อย่าลืมนะคะเพื่อนๆ ว่าต้องซื้อ  SWISS PASS เพราะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้เยอะเลยทีเดียวพ ไปชมน้ำตก Trummelbach falls เป็นน้ำตกใต้พื้นดินที่ใหญ่ที่สุดในฃยุโรป โดยมีทั้งหมด 10 ชั้นซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางหุบเขาเลาเทอร์บรุนเนน มีระดับความสูงถึง 140 เมตรเลยทีเดียว

 TranceMist June 11, 2013 Retrieved 17 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/3/2808/11259030995_948c27f162_b.jpg m(A)ui March 28, 2016 Retrieved 17 JUL 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/2/1555/25883165410_b0ee203c73_b.jpg Thomas Giger June 29, 2009 Retrieved 17 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/3/2533/3674893130_8418fbe8e9_b.jpg pischty.hufnagel September 14, 2013 Retrieved 17 JUL 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/4/3774/11463568633_e2f9b12525_b.jpg
Trümmelbachfälle

เราสามารถสัมผัสธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิด โดยเดินไปตามทางเดินและลงบันไดเพื่อไปยังน้ำตกชั้นล่างๆ ระหว่างทางจะได้เห็นน้ำตกบางส่วนผ่านหน้าต่างที่เจาะทะลุหิน รับรองได้ว่าหากเพื่อนๆมีโอกาสได้ไปดู จะต้องประทับใจในความงดงามของน้ำตกแห่งนี้อย่างแน่นอนเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เดือนเมษายนถึงพฤศจิกายนค่ะ มีค่าเข้าชมประมาณ CHF 11 ( 367.32บาท )

ที่อยู่สถานที่ค่ะ 3824 เลาเทอร์บรุนเนิน สวิตเซอร์แลนด์

สถานที่ที่สอง

หรือถ้าใครไม่ชอบภูเขาก็สามรถนั่งรถไฟตรงโรงแรมที่สถานี Wilderswil ไปที่ Kandersteg ลงที่สถานี Interlaken Ost สำหรับ   Kandersteg เป็นหมู่บ้านในรัฐแบร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่ในหุบเขาที่มีแม่น้ำคันเดอร์ไหลผ่าน ทางตะวันตกของเขายุงเฟรา เป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงในเรื่องทัศนียภาพภูเขา เศรษฐกิจของหมู่บ้านนี้ส่วนใหญ่มาจากการท่องเที่ยวเป็นหลัก

Pascal Hartmann July 4, 2016 Retrieved 17 JUL 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/8/7325/28050354426_bb44f15625_z.jpg weaverdude September 1, 2008 Retrieved 17 JUL 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/4/3241/2819560680_263bc96ff1_b.jpg Eduard Bürge October 16, 2017 Retrieved 17 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/5/4450/37869939576_613da49dce_z.jpg
Kandersteg , Blausee

นอกจากนี้ยังมี ทะเลสาบ Blausee ขนาดเล็กที่ใช้เป็นฟาร์มเลี้ยงปลาในหุบเขา Kander ด้วยน้ำสะอาดที่มีสีฟ้าเนื่องจากการหักเหของแสงและบริเวณริมหมู่บ้านยังเป็นที่ตั้งของค่ายลูกเสือนานาชาติ ซึ่งในแต่ละปีจะมีลูกเสือจากทั่วโลกมาจัดกิจกรรมกว่าปีละ 11,000 คน สวยเกินคาดจริงๆเลยค่ะ เค้ามีตำนานของเค้าด้วยนะคะว่าทำไมน้ำถึงมีสีฟ้า

dhakulchan9
คำอธิบาย

ที่อยู่Blausee 3717 Kandergrund, สวิตเซอร์แลนด์

สถานที่ที่สาม

ที่สถานี Interlaken Ost เราสามารถแวะไปเที่ยวที่  Harder Kulm / Harder Alpine Wildlife Park ปะ!!!!ไปขึ้นเขากันเถอะ เรานั่งรถราง Harderbahn สีแดงสด เป็นรถรางไต่เขา เอียงๆ (แต่เข้าไปนั่งแล้วไม่เอียงเน้อ คล้ายๆ สไตล์เดียวกับการขึ้น Peak Tram ที่ฮ่องกง) มี 2 ตู้ใหญ่ วิ่งจากสถานี Harderbahn ไปสู่ยอดสุดที่สถานี Harder Kulm ใช้เวลาประมาณไม่ถึง 15 นาที

John Hepp June 1, 2017 Retrieved 18 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/5/4263/35092507986_b8ee01dd0d_z.jpg
Harderbahn

พอมาถึงสถานีด้านบนแล้ว เดินต่ออีก 1 นาทีก็จะเป็นจุดชมวิว Harder Kulm ตรงนี้จะมีคาเฟ่ต์ ร้านอาหาร อยู่ด้วย สำหรับจุดชมวิวพีคๆ ไฮไลท์ ก็คือ เจ้าระเบียงยาวๆ ยื่นออกไปนอกหน้าผา ด้านล่างสามารถมองเห็นวิวเมือง Interlaken ได้ทั้งเมือง รวมไปถึงทะเลสาบ Brienz, Thun และยอดเขาจุงเฟราได้อีกด้วย (ถ้าไม่มีเมฆมาบัง)

Danielle Guyder April 14, 2014 Retrieved 17 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/3/2932/14246295673_ce01f21525_z.jpg Verner Brugger June 6, 2017 Retrieved 17 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/5/4260/35797470245_84a70b5709_b.jpg
จุดชมวิวมุมสูงที่ระดับ 1,321 เมตร , วิวเมือง Interlaken 

ยอดเขา Harder Kulm หนึ่งในยอดเขาชมวิวของสวิสที่ขึ้นได้ง่ายที่สุด ใช้เวลาน้อยที่สุด แต่วิวไม่แพ้ที่ใด ตั้งอยู่ที่เมืองอินเทอร์ลาเค่น (Interlaken) โดยความโดดเด่นของยอดเขานี้ คือ มีจุดชมวิวมุมสูงที่ระดับ 1,321 เมตร (4,334 ฟุต) จากระดับน้ำทะเล สามารถมองเห็นวิวตัวเมืองอินเทอร์ลาเค่นทั้งหมด ไกลไปถึงยอดเขาจุงเฟรา ด้านซ้ายเป็นวิวทะเลสาบ Brienz ส่วนด้านขวาเป็นทะเลสาบ Thun

ที่อยู่จุดชมวิว 3800 Unterseen, สวิตเซอร์แลนด์

ช่วงเวลาเปิดให้ขึ้นชมวิว : เปิดบริการตั้งแต่ เมษายน – พฤศจิกายน
เวลาเปิดปิด : 8.10 – 20.55 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 30 CHF (1000.59 บาท) เด็ก 6-15 ปี 15 CHF (500.3 บาท) ถ้ามีสวิสพาส ลดครึ่งราคา

สถานที่ที่ห้า

กินลม ชมวิว ถ่ายรูปเรียบร้อยแล้ว เริ่มหิวแล้วค่ะพวกเราก็เลยชวนกันลงจากเขาไปหาไรกินกันข้างล่างดีกว่าเพราะข้างบนราคาไม่ค่อยเป็นมิตร วันนี้เราเลยจะพาเพื่อนไปกินอาหารที่ Restaurant The Verandah  ตั้งอยู่ในโรงแรม Royal St. Georges เราก็สามารถใช้ Swiss Pass นั่ง Bus ไปได้เลยค่ะ

carlfbagge May 1, 2017 Retrieved 18 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/5/4167/34310477401_3ca8c2f87b_b.jpg Graham Trimming July 9, 2018 Retrieved 18 JUL 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/2/1784/29573349708_80f6d56d1a_b.jpg
Restaurant The Verandah , Royal St. Georges

ห้องอาหาร Verandah ให้บริการอาหารเอเชียและอาหารตะวันตกหลากหลายประเภทยกระดับการรับประทานอาหารตลอดทั้งวันให้บริการทั้งในร่มหรือกลางแจ้งมองเห็นวิวแม่น้ำ

Strandcafe Lübben April 23, 2010 Retrieved 18 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/5/4076/4954853496_950c1ba8e1_b.jpg Apollonia Beach Resort & Sp November 13, 2012 Retrieved 18 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/3/2881/9260767783_348700a7c5_b.jpg Travelive Photos November 30, 2008 Retrieved 18 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/5/4130/5201664743_a6201a68b0_b.jpg
ห้องอาหาร

มีเมนูตามสั่ง มีบริการอาหารเลิศรสสำหรับช่วงเวลาของวันตั้งแต่อาหารเช้าจนถึงอาหารว่างยามดึก นอกจากนี้เรายังมีขนมอบอบสดใหม่และไอศครีมโฮมเมดอีกด้วย

Verandah Edinburgh July 11, 2009 Retrieved 18 JUL 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/6/5499/10391518633_61a5a6797b_o.jpg David H. March 11, 2018 Retrieved 18 JUL 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/2/1801/42516521155_e4d81c4255_b.jpg David H. March 11, 2018 Retrieved 18 JUL 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/2/1788/43373438832_3b251eef14_b.jpg David H. March 11, 2018 Retrieved 18 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/1/846/42516501615_74bc691bd5_b.jpg Jassy-50 September 4, 2012 Retrieved 18 JUL 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/2/1737/41748886165_959da40ee0_b.jpg Jassy-50 September 4, 2012 Retrieved 18 JUL 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/2/1754/42648409111_33b4a393cd_b.jpg aninonipedro November 8, 2009 Retrieved 18 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/5/4018/4378157478_034b23a827_b.jpg aninonipedro November 8, 2009 Retrieved 18 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/5/4055/4381034466_e20a26ea8a_b.jpg
Food

สำหรับร้าน The Verandah เค้าบริการดีมากค่ะ แถมอารหารก็หน้าดูดี รสชาติอร่อยถูกปาก มีทั้งอาหารสวิสแบบต้นฉบับของเมือง และอาหารของเค้ายังขึ้นชื่อ ในด้านเครปและของหวานและ อาหารเรียกน้ำย่อยร้านนี้นะคะ ผสมผสานรสชาติแบบดั้งเดิมของชาวสวิสและอาหารร่วมสมัยเช่นฟองดูที่มีชื่อเสียงเสิร์ฟพร้อมกับขนมปังฝรั่งเศสแบบฝรั่งเศสและไวน์รสชาติของท้องถิ่น

ที่อยู่ร้าน Hoeheweg 139, 3800 Interlaken, Switzerland,

จากนั้นก็เดินทางกลับสู่ที่พักกันค่ะ ( Jungfrau Hotel )


วันที่ 4 (วันจันทร์ ที่ 16 เมษา —–>Jungfrau 3.6 ° C )


ไหนๆก็ซื้อบริการแล้ว ก็ต้องกินให้คุ้มสิ ใช่มั้ย วันนี้ทานอาหารเช้ากันที่โรงแรมนะคะถือว่าคุ้มเลย กินเสร็จไปเที่ยวเขากันค่ะ

Hideki Takahashi August 6, 2009 Retrieved 18 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/3/2505/3858203011_bffac98a6a_b.jpg Stone's Photography June 8, 2014 Retrieved 18 JUL 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/4/3844/14821379593_6f66300b7c_b.jpg
Wilderswil , Jungfraujoch

แนะนำให้เพื่อนๆเช็คก่อนนะคะว่าท้องฟ้าอากาศแจ่มใสรึเปล่า ไม่งั้นไปข้างบนไม่เห็นอะไรเลยจะเสียเวลามากๆ

ไปเที่ยว Jungfraujoch กันดีกว่า ไปค่ะลุยต่อ เราจะนั่ง รถไฟที่ Wilderswil ไป Jungfraujoch แบบ ROUNDTRIP นะคะ ราคาปกติ: CHF 189.60 ( 6323.75 บาท ), บัตรท่องเที่ยวครึ่ง Fair: CHF 94.80 ( 3161.87 บาท ), บัตรเดินทาง Swiss Travel: CHF 142.2 ( 4742.81บาท ) เรากับเพื่อนยังไม่ได้ตกลงกันว่าจะไป Jungfraujoch หรือ Schilthorn ดี เช้าวันนั้นเราตัดสินใจไป Schilthorn กัน แต่เราก็มีข้อมูลของ Jungfraujoch มาฝากคร่าวๆ

Option 1

เมื่อเดินทางไปถึงสถานี Jungfraujoch ซึ่งสถานีนี้เป็นสถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป น่าตื่นเต้นมากๆเลยนะคะ และที่นี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่รอเพื่อนๆ อยู่ด้านบนอีก สำหรับใครที่ชอบหิมะ สามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพ ที่งดงามของธารน้ำแข็ง  Jungfrau และ Aletsch ได้เลย

Jungfraufirn November 23, 2017 Retrieved 18 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/5/4523/38750940281_d729c14c13_b.jpg Hurni Christoph March 11, 2012 Retrieved 18 JUL 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/8/7181/6835484550_5c2cb105e6_b.jpg
Jungfrau

สำหรับ Jungfrau ตั้งอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ใกล้กับเมืองเวงเงินส์ เป็นหนึ่งในยอดเขาที่สุดที่สุดบนเทือกเขาแอลป์ ที่อยู่ค่ะ 3801 Fieschertal, สวิตเซอร์แลนด์

สถานที่ที่หนึ่ง

Aletsch เป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในเทือกเขาแอลป์ ตั้งอยู่ใน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ธารน้ำแข็งนี้มีความยาวราว 23 กิโลเมตรร ตัวธารน้ำแข็งมีความกว้างราว 940 เมตร  ธารน้ำแข็งอาเล็ทช์และหุบเขาโดยรอบได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติโดยยูเนสโก

The Cookiemonster July 12, 2012 Retrieved 18 JUL 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/8/7106/7573609194_f34b7500d8_b.jpg
Aletsch

ธารน้ำแข็งแห่งนี้เกิดขึ้นจากการบรรจบกัน ณ ระดับความสูง 4,160 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลของธารน้ำแข็งขนาดย่อย 4 สาย อันได้แก่ โกรสเซอร์อาเล็ทช์เฟียร์น (Grosser Aletschfirn)  ยุงเฟราเฟียร์น (Jungfraufirn) เอวิจชเนแฟลด์ (Ewigschneefäld) ทางเหนือ จากเขาเมินช์ (Mönch) กรือเน็กก์เฟียร์น (Grüneggfirn) ที่อยู่สถานที่  3984 Fieschertal, สวิตเซอร์แลนด์

Option 2

ต่อไปไปชมพระอาทิตย์ตกที่  Schilthorn กันค่ะ ซึ่งพวกเราตั้องนั่งรถ จาก Wilderswil เพื่อไป Lauterbrunenเดินทางประมาณ 15 นาที และต่อไปยังStechelberg Schilthornbahn โดยรถประจำทาง อีกประมาณ12 นาที จากนั้นต้องเดินทางต่อด้วย Cable Car อีก 32 นาที ( ต้องเปลี่ยนรถสายอื่นใน Gimmelwald เพื่อไปถึงMürren ขาสุดท้ายของการเดินทาง จากนันคุณจะต้องขึ้นรถรางและเปลี่ยนไปที่ Birg จากนั้นก็จะไปถึงจุดสูงสุดของ Schilthorn )

petitpere June 29, 2008 Retrieved 18 JUL 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/4/3157/2624567065_ba8c5ae6fe_b.jpg lpvva1 November 21, 2010 Retrieved 18 JUL 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/6/5281/5196277029_715ff71428_b.jpg Barbara Brundage January 21, 2011 Retrieved 18 JUL 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/6/5282/5376726663_f9ef73a4b0_b.jpg
Schilthorn

ถึงการเดินทางจะยากลำบากแต่ทุกจุดก็สวยงามทำให้ไม่เหนื่อยเลยค่ะนอกจากนี้ที่ Birg ก็จะมี Thrill Walk บนยอดเขา สำหรับคนที่ชอบท้าทายความกล้าอีกด้วย

สำหรับเขา Schilthorn ตั้งอยู่ทางตะวันตกของหุบเขาเลาเทอร์บรุนเนินถัดจากหมู่บ้านเมือร์เริน โดยมีกระเช้าลอยฟ้าจากเมือร์เรินมายังภูเขาแห่งนี้ บริเวณจุดยอด สามารถมองเห็นได้ทัศนียภาพของเขาทิทลิส, เขาไอเกอร์, เขาเมินช์, เขายุงเฟรา และยังสามารถเห็นไปถึงป่าดำทางทิศเหนือ ตลอดจนมงบล็องทางทิศตะวันตกเฉียงใต้

ที่อยู่ 3825 เลาเทอร์บรุนเนิน สวิตเซอร์แลนด์

เดินทางเหนื่อนมาทั้งวันและกลับห้องไปนอนกันดีกว่า (Jungfrau Hotel)


วันที่ 5 (วันอังคาร ที่ 17 เมษา —–>Lucerne )


เช็คเอาท์โรงแรม (Jungfrau Hotel) แล้วเดินทางกันต่อค่ะรถไฟจาก Wilderswil ไป Interlaken เมื่อถึงสถานี Interlaken Ost เราก็เดินทางโดย Brienz Cruise ไปยัง Brienz ใช้เวลาประมาณ75 นาที ฟรีด้วย SWISS PASS อีกแล้วคุ้มมาก

Ming-yen Hsu July 12, 2007 Retrieved 18 JUL 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/2/1174/1170587509_155b2ee5ae_b.jpg Haimanti Weld May 5, 2012 Retrieved 18 JUL 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/8/7325/9596863515_01f9fa2628_b.jpg
 Brienz Cruise

เมื่อถึงBrienz  เรานั่งรถไฟไปที่ Lucerne ต่อ อัตราค่าโดยสาร ราคาปกติ: CHF 29( 967.24 บาท ), บัตรท่องเที่ยวครึ่ง Fair: CHF14.5 ( 483.62 บาท ), บัตรเดินทาง Swiss Travel: CHF 0

wthung August 29, 2015 Retrieved 18 JUL 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/6/5702/21558491932_26d9e6272d_b.jpg wthung August 29, 2015 Retrieved 18 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/1/713/21578563331_e693a83567_b.jpg
ibis budget Hotel Luzern City

เราหาที่พักไว้แล้วค่ะก็เลยไม่ค่อยลำบากถึงเมือง็เข้าไป เช็คอินที่โรงแรม ibis budget Hotel Luzern City ได้เลย จองไว้ห้องเดียวค่ะ ราคาก็อยู่ที่ € 85 ( 3298.85 บาท )ไม่มีอาหารเช้านะคะราคานี้ 

Pair April 13 , 2018 Retrieved 19 JUL 2018 FROM 1531969313515
เรือ

เก็บของแล้วไปต่อกันเลยจร้าาา เราไปเที่ยวต่อกันที่  Mount Rigi โดยเรานั่งเรือจาก Lucerene ไปยัง Vitznau ซึ่งก็จะผ่านจุดที่น่าสนใจที่สุดของทะเลสาบลูเซิร์น ฟรีด้วย 

Maurizio Zanella August 20, 2010 Retrieved 18 JUL 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/8/7342/12032529404_d387261a9c_b.jpg Maurizio Zanella August 20, 2010 Retrieved 18 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/5/4082/4960641950_dd4f773325_b.jpg simon müller August 6, 2017 Retrieved 18 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/5/4404/36402366726_4372e08739_b.jpg
Vitznau , รถไฟเฟือง ,  Mount Rigi

เมื่อถึง Vitznau ให้เพื่อนข้ามถนนไปยังรถไฟเฟืองสีแดงเป็นรถไฟไต่เขาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรปอีกด้วย ซึ่งจะนำคุณไปถึง Mount Rigi  อัตราค่าโดยสาร ราคาปกติ: CHF 45.00( 1500.89 บาท ), บัตรท่องเที่ยวครึ่ง Fair: CHF 22.5( 750.44 บาท ), บัตรเดินทาง Swiss Travel: CHF 0

Note : ต้องไปถึงเร็วๆนะคะเพราะรถไฟเฟืองปิดให้บริการเร็วมากๆ

Mount Rigi หรือที่เรียกว่า ราชินีแห่งเทือกเขา ทั้งเทือกเขาล้อมรอบด้วยน้ำเกือบทั้งหมดของ  ทะเลสาบ สามแห่งคือ ทะเลสาบลูเซิร์น ทะเลสาบซุก และ ทะเลสาบเลาเซอร์ มีภูมิทัศน์ที่สวยงาม และเป็นจุดวิวที่สวยที่สุดของเมืองลูเซิร์น มีความสูงประมาณ 1,797.5 เมตร เขาริกิ ได้ว่า ที่นี่มีกิจกรรมหลายอย่างให้นักท่องเที่ยวได้สนุก เช่น การเล่นสกี หรือเลื่อนในฤดูหนาว และเดินป่าในช่วงฤดูร้อน แนะนำให้เอาอาหารขึ้นไปทานระหว่างชมวิวบนรถไฟแบบที่คนท้องถิ่นเค้าทำกันนะคะ

slim studios May 8, 2016 Retrieved 18 JUL 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/8/7560/26667281300_6425a89e6d_b.jpg
Mount Rigi

ที่ตั้งเขาริกิค่ะ 6410 Arth, สวิตเซอร์แลนด์

ในวันที่อากาศแจ่มใสคุณสามารถมองเห็น Jura.Count ทะเลสาบหลายแห่งที่คุณสามารถดูได้มีทะเลสาบแปดแห่ง ได้แก่ ทะเลสาบลูเซิร์นทะเลสาบ Sempach ทะเลสาบ Hallwil ทะเลสาบ Baldegg ทะเลสาบ Zug ทะเลสาบ Aegeri ทะเลสาบ Lauerz และทะเลสาบ Sarnen

หากมีเวลาเหลือ: นั่งรถไฟไปที่ Zug และไปที่เมืองเก่าของ Zug ซึ่งมีขนาดเล็ก แต่สวยงามหรือเดินเล่นตามทะเลสาบ Zug และเพลิดเพลินกับสถานที่ท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่จากที่นั่น มีร้านอาหารอยู่ริมทะเลสาบที่มีทั้งหมดสวยดี  ที่นี่สามารถชมพระอาทิตย์ตกที่ยอดเยี่ยม ดูผ่าทะเลสาบ Zug

จากนั้นนั่งรถไฟกลับไปที่ ลูเซิร์น เดินทางเข้าสู่ที่พักค่ะ (ibis budget Hotel Luzern City )

 


วันที่ 6 (วันพุธที่ 18 เมษา —–> Back to Paris)


ตื่น แต่เช้า!! ค่ะวันนี้ ทานอาหารเช้าที่โรงแรม แล้วก็ออกไปเดินไปเที่ยวรอบรอบ ๆ

สถานที่แรก

สะพาน Chapel Bridge เป็นสะพานคนเดินข้ามแม่น้ำร็อยส์ในนครลูเซิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1365 เมื่อแรกสร้างมีความยาว 270 เมตร แต่เนื่องจากตลิ่งแม้น้ำที่งอกเพิ่มขึ้นตลอดหลายร้อยปี ทำให้ในปัจจุบันตัวสะพานเหลือความยาว 204.7 เมตร สะพานนี้ถือเป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป และถือเป็นหนึ่งในสะพานแบบโครงที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังหลงเหลืออยู่ในโลกตลอดลำสะพานมีจิตรกรรมจำนวนมากที่วาดขึ้นในศตวรรษที่ 17 อย่างไรก็ตาม จิตรกรรมกว่า 2 ใน 3 ได้ถูกทำลายจากเหตุเพลิงไหม้ในปี ค.ศ. 1993

Jonathan Reid August 12, 2009 Retrieved 18 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/9/8485/8284891971_35479b7986_b.jpg
Chapel Bridge และ  Water Tower

ส่วน Water Tower หอคอยแปดเหลี่ยมนี้ – สูงกว่า 34 เมตร (111.5 ฟุต) – สร้างขึ้นเมื่อราวปีพศ. 1300 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกำแพงเมืองและใช้เป็นคลังเก็บเงินห้องคุกและทรมาน เป็นสถานที่สำคัญของลูเซิร์นและอนุสาวรีย์ที่ถ่ายภาพบ่อยที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อมองออกออกจากสะพาน Chapel เพื่อนๆจะได้เห็นทัศนียภาพที่งดงามของทะเลสาบลูเซิร์น ทะเลสาบแห่งนี้นะคะล้อมรอบด้วยเทือกเขา Swiss Alps และทะเลสาบแห่งนี้ยังมีทัศนียภาพที่สวยงาม

ที่ตั้งค่ะ Kapellbrücke, 6002 Luzern, สวิตเซอร์แลนด์

สถานที่ที่สอง

เมื่อเราเดินไปที่ ย่าน Old Town ในเมืองเก่าของ Museggmauer Lucerne ซึ่งเมืองนี้โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมยุคกลางอันงดงามและถนนแคบ ๆ ที่ทอดสู่ Museggmauer อันเก่าแก่ (Musegg Wall) ตั้งอยู่ที่ยอดของ Old Town ที่สามารถมองเห็นเมือง Lake Lucerne และบริเวณนี้เป็นส่วนหนึ่งของกำแพงล้อมรอบ สร้างขึ้นในปี 1386

TUI Lakes May 29, 2017 Retrieved 18 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/5/4222/34957169065_a132c450bb_b.jpg Marcellinissimo April 15, 2011 Retrieved 18 JUL 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/6/5185/5770783121_80fe128fa1_b.jpg
ย่าน Old Town และ Zytturm in Luzernc

การเดินขึ้นไปทางด้านบนใช้เวลาประมาณ 15 นาทีผ่านถนนก้อนหินปูถนนที่คุ้นเคยดังกล่าว แต่เราสามารถยืนยันได้ว่าคุ้มค่ากับความพยายาม อีกความเป็นจริงที่น่าสนใจสำหรับประวัติศาสต มีนาฬิกาเมืองที่เก่าแก่ที่สุดย้อนกลับไป 1535 ตั้งอยู่ภายใน Zyt ทาวเวอร์และมีการตั้งค่าการตีระฆังทุกชั่วโมงความแตกต่างเป็นมัน chimes หนึ่งนาทีก่อนอื่น ๆ นาฬิกาในเมือง

ที่ตั้งของย่าน Kornmarkt 11, 6004 Luzern, สวิตเซอร์แลนด์

สถานที่ที่สาม

Lion Monument อนุสาวรีย์สิงโต สิงโตที่ตายแล้วอนุสาวรีย์ที่แกะสลักจากหิน รูปปั้นสิงโตที่ใกล้ตายถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นเกียรติ เป็นสัญลักษณ์ให้ผู้คนระลึกถึงองครักษ์สวิสที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ จากการลุกฮือที่พระราชวังทุยเลอเรียงที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส     วันที่ 10 สิงหาคม ปี ค.ศ. 1792

Alcohol is good October 2006 Retrieved 18 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/1/129/317723405_77c9041803_b.jpg Fernweh Linh Ngo April 29, 2018 Retrieved 18 JUL 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/1/963/41779538781_5b396e2f6e_b.jpg Becky Pitzer May 30, 2009 Retrieved 18 JUL 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/4/3517/3733095650_b40c3b62ce_b.jpg
Lion Monument

อนุสาวรีย์นี้เป็นหนึ่งในอนุสาวรีย์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันมากที่สุดในประเทศสวิสเซอร์แลนด์   ในแต่ละปีจะมีผู้มาเยี่ยมชมอนุสาวรีย์แห่งนี้ประมาณ 1.4 ล้านคนและในปี ค.ศ. 2006  อนุสาวรีย์แห่งนี้ได้รับการคุ้มครองเป็นให้เป็นมรดกแห่งชาติ

ที่ตั้งสถานที่ค่ะ  Denkmalstrasse 4, 6002 Luzern, สวิตเซอร์แลนด์

lamiacucina January 27, 2011 Retrieved 18 JUL 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/6/5171/5393051006_a888acb235_b.jpg lamiacucina January 27, 2011 Retrieved 18 JUL 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/6/5296/5393038818_fcfb031aa8_b.jpg lamiacucina January 27, 2011 Retrieved 18 JUL 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/6/5173/5392440575_5b09e87b47_b.jpg
Luzerner Chügelipastete

Luzerner Chügelipastete ซึ่งเป็นอาหารท้องถิ่นที่ปรุงจากพัฟขนมอบเนื้อลูกวัวและเห็ดบรรจุในซอสครีม อร่อยไปลองค่ะ หาทานได้ง่ายๆเพราะเป็นอาหารพื้นเมืองของชาวสวิสค่ะ

ปะกลับบ้านกันค่ะหลังจากเที่ยวอย่างเต็มอิ่มมากว่า 6 วัน 5 คืน ขากลับนี้เรานั่งรถไฟจาก Lucern ไปยัง Geneva Aeroport ประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าๆจากนั้นนั่งเครื่องจากบาเซิลไปปารีสเที่ยวบินเที่ยวบินที่  EZS1395 ตอน 16:25 จาก GENEVA ถึง PARIS ORLY 17:30 โดยสายการบิน Easyjet ราคา 23 ยูโร ( 892.63 บาท )

dhakulchan10
ค่าใช้จ่าย

ถ้าคิดราคาต่อคนก็ตกคนละประมาณ 37,300 ก็ถือว่าทริปนี้ถูกมากๆเลยนะคะเที่ยวไกลถึงยุโรปจ่ายเงินแค่ 3 หมื่นกว่าเองค่ะ คุ้มมากๆ

เรายังมี trick สุดท้ายที่ช่วยเราได้มากๆ คือการจองตั๋วเครื่องบิน รถไฟ ที่พักทั้งหมด ผ่าน บริษัทตระกูลเฉินค่ะ เพราะเค้าเป็นบริษัททัวร์ที่เป็นมืออาชีพและไว้ใจได้ เปิดมามากกว่า 20 ปีแล้ว ทำให้การจองทริปนี้เป็นเรื่องที่ง่ายมากๆ แค่ chat รายละเอียด ตั๋วเครื่องบิน ที่พัก รถไฟ บัตรเข้าต่างๆ ที่ LINE ของบริษัท (หรือถ้าเพื่อนๆอยากเที่ยวแบบเราก็ส่ง LINK โพสต์นี้ ไปให้ทางบริษัทได้เลยนะคะ) เค้าก็จองให้หมด แล้วเราก็จ่ายเงินครั้งเดียวจบ หรือจะจองโรงแรมทั่วโลกผ่าน website ของบริษัทเองก็ได้นะคะ

 

ไม่ไปไม่ได้แล้วหรือไม่อยากไปเที่ยวเองก็สามารถจองทริปเที่ยวกับทางบริษัทได้นะคะ ตามด้านล่างนี้เลย

สนใจแพ็คเก็ททัวร์ Switzerland1 , Switzerland2 , Switzerland3 , Switzerland4

ตอนนี้ก็เป็นอันจบทริปของเราแล้วนะคะ แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้านะคะ หรือเพื่อนๆ คนไหนอยากไปเที่ยวที่อื่นใน Switzerland นอกเหนือจากที่เรามารีวิวก็ลองดูแพ็คเก็ทพวกทัวร์แถวๆยุโรปได้ตาม Link นี้นะคะ

 

Posted on

แพลนเที่ยวอิตาลี 9วัน 8คืน เดินทางด้วยตัวเอง #2018

มิลาน – โคโม่ – เวโรน่า – เวนิส – ฟอเรนซ์ – ปิซ่า – ซองเกอร์ แตร์ – โรม

แพลนเที่ยวอิตาลี 9วัน 8คืน เดินทางด้วยตัวเอง #2018


วันแรก  @ มิลาน 11°C /0°C (วัน พฤหัสบดี 22 ก.พ. 2561)


เดินทาง จาก สนามบิน Paris Charles de Gaulle Airport -> สนามบิน Milan Malpensa Airport


1. เรานั่งจากปารีส (เราเริ่มจากที่พักเราในปารีสนะคะ) Uber ตั้งแต่ตี4 ไปลงสนามบิน Paris Charles de Gaulle Airport 
(19€ ประมาณ 740฿)

2. ต่อ EasyJet ไปยังสนามบิน Milan Malpensa Airport (ออก 06.50 ถึง 08.15) + กระเป๋าใบใหญ่ 15 Kg หารครึ่งกับเพื่อน ราคาตั๋ว ไป-กลับ  (147.6€ ประมาณ 5,750฿)

ถ้าเริ่มจากประเทศไทย บินมาลงที่มิลานได้เลย แนะนำสายการบินราคาไม่แพงมาก >เช็คเที่ยวบิน< คลิ๊ก >จองตั๋วเครื่องบิน<

เช่น

  • สายการบิน Blu Express (กรุงเทพ – มิลาน)
  • สายการบิน Egype Air (กรุงเทพ – ไคโร – มิลาน)
  • สายการบิน Etihad Airways (กรุงเทพ – อาบูดาบี – มิลาน)


เข้าสู่ เขตตัวเมือง มิลานแล้วค่ะ เริ่มกันเลย!!!

ขั้นแรก เราก็จะไปเอาบัตร Milano Card

  • เราซื้อบัตร Milano Card 24h + Malposa Express Single ไว้แล้วออนไลน์ (19.25€ ประมาณ 748฿) เลยไปรับบัตรที่จุดบริการลูกค้า ในสนามบิน (เปิดให้บริการทุกวันและหยุดตามวันหยุดธนาคาร ตั้งแต่ 8.30-24.15 น.)

  • Milano Card  มีสิทธิพิเศษมากมาย ส่วนลดพิพิธภัณฑ์ ร้านอาหาร และที่สำคัญใช้ Metro  นับจากเวลาที่เริ่มใช้ เราเลือกเป็น24h ต้องใช้ในเขตมิลานเท่านั้น นอกเขตไม่ได้
  • Malpensa Express  คือ รถไฟ เข้า-ออกAirport
Giuseppe Nicoloro July 19, 2007 Retrieved 11JUL2018 FROM https://c2.staticflickr.com/4/3040/3001321360_7fc3465466_z.jpg?zz=1
Malpensa Express

ขั้นสอง เดินทางไปยังที่พัก คือ โรงแรม OstellOlinda /ปล.นั่งรถไฟไป🚆

  • นั่งจากสถานี Milan Malpensa Aeroporto T2 สถานี Milano Nord Bovisa (โดยใช้ Malpensa Express ที่ซื้อมา)
  • นั่งต่อจากสถานี Milano Nord Bovisa – สถานี Milano Affori Railway อีก 1 สถานี (โดยใช้ Milano Card)
  • OstellOlinda ห่างสถานีรถไฟ 400 เมตร เดินไปประมาณ5นาทีก็ถึงที่พักแล้ว
Milan Central Station

แผนที่ ระยะทางประมาณนี้นะคะ

ถึงแล้วววววววววววว OstellOlinda มาเก็บกระเป๋า Check-in แล้วเดี๋ยวไปเที่ยวกันต่อ

http://www.olinda.org/ Retrieved 13-JUL-2018 FROM http://www.olinda.org/wp-content/uploads/2016/05/DSC02863-2-768x512.jpg
OstellOlinda

ขั้นสาม พักผ่อนหนำใจไปเที่ยวกันต่อที่ The Duomo (Milan Cathedral)

  • นั่งรถไฟใต้ดิน ไปสถานี Piazza del Duomo (รูปเราเอง ถ่ายตอนเที่ยงๆแสงจะดีมากๆ)
Duomo di Milano

มหาวิหารแห่งเมืองมิลาน (Duomo di Milano) หรือที่หลายคนเรียกว่า วิหารเม่น เพราะตัวอาคารจะมียอดแหลมเต็มไปหมด (เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิค)ที่ข้ามผ่านกาลเวลามาหลายยุคสมัย เฉพาะเวลาที่ใช้สร้าง ก็กินเวลาไปถึง 579 ปี แล้วเสร็จในปี 1965 ผ่านช่วงเวลาแห่งปัญหามามากมายนัก เช่น การเมือง สงคราม การเงิน และสถาปนิกคนสำคัญที่มีส่วนในการก่อสร้างมหาวิหารนี้นั่นคือ “ลีโอนาโด ดาวินซี”

  • ด้านหน้า เพลิดเพลินกับกิจกรรมดนตรีและกิจกรรมอื่นๆที่มาสร้างบรรยากาศให้ดูสนุกสนาน แต่จะมีคล้ายๆตากล้องมาทำเป็นถ่ายรูปแล้วขายให้เราเลี่ยงๆได้เลี่ยง อย่าไปคุย และคนขายอาหารนก! ระวัง! อาจถูกโดนหลอกให้ซื้ออาหารนกได้5555
  • ด้านขวา จะมีทางให้ขึ้นไปด้านบนสุดของวิหาร สามารถซื้อตั๋วได้จากที่นี้
  • ด้านบน ด้านบนสุดของวิหาร เป็นจุดชมวิว 360° ห้ามพลาด !! เป็นวิวเมืองที่สวยงามมาก ต้องซื้อตั๋วขึ้นมา มีทั้งแบบบันได (7€ = 273฿ ) และลิฟท์ (13€ = 506฿เลือกตามความสะดวกเลย จ่ายด้วย Milano Card
  • ด้านใน ให้เข้าชมฟรีไม่เสียเงิน ถ่ายรูป ( 2€ = 78฿ )
  • รอบด้าน  เราสามารถที่จะเดินดูรอบๆได้ หรือถ้าใครจะเข้าไปดูข้างในจะต้องแต่งกายให้เหมาะสม เสื้อต้องคลุมแขน ขา ไม่อย่างนั้นจะไม่อนุญาตให้เข้าไปข้างในได้ 

ขั้นสี่ มาชมความหรูอลังการ ห้างสรรพสินค้า  Galleria Vittorio Emanuele II

Galleria Vittorio Emanuele II

Galleria Vittorio Emanuele II (ใช้ Milano Card) ศูนย์การค้าสุดหรูของผู้หลงใหลแฟชั่นและอาหารชั้นเลิศ Galleria Vittorio manueleII  ตั้งอยู่ใกล้ๆกับ The Duomo อาคารหลังนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ว่ากันว่าป็นศูนย์การค้าที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ในขณะเดียวกัน แบรนด์ดังอย่าง Prada และ Gucci มิลานได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองหลวงแห่งแฟชั่นของโลก

ทางเดินในศูนย์การค้าสองฝั่งโดดเด่นด้วยเพดานกระจกครอบอาคารสูงสี่ชั้นและเชื่อมต่อกันด้วยโดมกระจกทรงแปดเหลี่ยม ประดับด้วยกระเบื้องโมเสกสี่ชิ้นเป็นรูปตราประจำเมืองมิลาน ตูริน ฟลอเรนซ์ และโรม ให้คุณลองไปยืนบนตรารูปกระทิงของตูรินแล้วหมุนตัวด้วยส้นเท้า ว่ากันว่าจะนำโชคดีมาให้ ธรรมเนียมท้องถิ่นนี้ได้รับความนิยมมากจนทำให้กระเบื้องโมเสกเป็นรอยหลุมเล็กๆ เลยทีเดียว

เดินทะลุ Duomo รับประทานขนม  ร้าน Luini (ลูอินี่) กันค่ะแนะนำมากๆ

ร้านนี้ขาย Panzerrotti (พันเซร็อตติ) ราคาตั้งแต่ 2.5ยูโร ร้านจะยุ่งนิดนึงค่ะเพราะเป็นร้านที่นิยมร้านนึงในเมืองมิลาน แต่คุ้มค่าของความอร่อยแน่นอน

เค้าจะมีแบบคาวกับหวานถ้าแบบคาวแป้งจะนิ่มๆมีใส้ เช่น มะเขือเทศและชีสมอซซะเรลล่า เนื้อนุ่มคล้ายๆ ขนมปังทอด แต่ส่วนตัวไม่ชอบเนื้อแป้งกับใส้ชีสมันแอบเลี่ยน ที่เราชอบคือแบบหวาน แป้งจะกรอบๆรูู้สึกไม่มันแล้วมันคือดีมาก โดยเฉพาะใส้ Pitaschio อยากกลับไปกินอีกจัง ตรงข้าม Luini ก็จะมีร้านขาย Gelato เครป, วาฟเฟิลชื่อ Cioccolatitalian ที่ฮิตมากคนเยอะคิวยาวเลย

ร้านอาหารแนะนำ (เหมาะกับการดินเนอร์มากๆ)

1. Al Cantinone ร้านอาหาร เป็นร้านที่ตกแต่งได้มีเอกลักษณ์ ซ่อนความน่ารัก วินเทจ อดไม่ได้ที่จะอยากนั่งร้านนี้ (Agnello 19)

https://alcantinone.it/ Retrieved 16JUL2018 FROM https://alcantinone.it/images/cantinone/la-storia/esterno_cornice.jpg

2. Cucina del Toro ร้านอาหารที่ดูเรียบเก๋ สไตล์อิตาลีราคาอาหารเริ่มตั้งแต่ (12€ = 467฿) (Camperio 15)

http://www.cucinadeltoro.it/ Retrieved 16JUL2018 FROM http://www.cucinadeltoro.it/data/uploads/homeslider/01.jpg

3. Trattoria Milaneseร้านอาหารที่เป็นสไตล์เก๋ๆ ให้ความรู้สึกเป้นเมืองมิลานจริงๆ ด้านในจะมีการจัดโต๊ะอาหารที่รายล้อมไปด้วยไวน์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (Santa Marta 11)

http://www.anticatrattoriadellapesa.com/ Retrieved 16JUL2018 FROM https://u.tfstatic.com/restaurant_photos/155/50155/169/612/trattoria-milanese-la-entrata-23ea2.jpg

ขั้นห้า นั่ง Metro ด้วย Milano Card จากหน้า Duome มาที่  Sforzesco Castle & Sempione park

https://www.milanocastello.it Retrieved 16JUL2018 FROM https://www.milanocastello.it/sites/default/files/styles/grande_per_colorbox/public/D3S_8512.jpg?itok=ttJrmnhN / https://www.milanocastello.it/sites/all/themes/sforzesco/images/sforzesco_edificio.jpg / https://www.milanocastello.it/sites/default/files/styles/colorbox_aperto/public/sforzesco_ducale_0195.jpg?itok=-yRcvMp5

Sforzesco Castle ปราสาทเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 500 ปีอดีตเคยเป็นป้อมปราการและที่พำนัก ตระกูล Visconti ที่เคยปกครองมิลาน หลังจากคนสุดท้ายของตระกูล Visconti ขณะนี้กลายเป็น พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ภายในปราสาทคือ Museum of Ancient Art เป็นสถาบันทางวัฒนธรรมที่เป็นที่เก็บผลงานของศิลปินชื่อดัง ไมเคิล แองเจลโล และบริเวณภายในปราสาทยังเต็มไปด้วยผลงานทางศิลปะของศิลปินในยุค Renaissance เช่น Leonardo da Vinci และบริเวณด้านหน้าของปราสาท มีสวน Sempione ขนาดใหญ่ให้คนมิลานได้มาปิคนิคกันในวันว่างๆ หรือวันพักผ่อน

อาหารเย็น  ดินเนอร์ร้าน Trattoria Milanese แล้วรีบกลับที่พักก่อนมืดเพราะแถวโรงแรมแอบน่ากลัว!!

เข้าสู่ที่พัก โรงแรม OstellOlinda คืนละ (55€/2 = 27.5€ ประมาณ 1070฿) เราว่าโรงแรมนี่เหมาะสำหรับคนที่ลุยๆส่วนตัวเราขอไม่กลับมาแล้วดีกว่า5555

 


วันที่สอง  @ โคโม่ 8°C / -3°C(วันศุกร์ 23 ก.พ. 2561)


อาหารเช้า  กับโรงแรม OstellOlinda เป็นพวก ขนม/นม/กาแฟ ไม่มีเนื้ออะไรให้ทาน 

  • เช็คเอ้าท์ 9 โมงเช้า หรือภายใน24 ชม. จากที่ใช้ Milano Card ครั้งแรก
  • นั่งMetroจาก สถานี Affori FN ของโรงแรมไป – > สถานี Zara – Garibaldi FS (25 mins) เพื่อที่จะได้ใช้ Milano Card

ขั้นแรก  เดินทางไป เมืองโคโม่โดยการนั่งรถไฟ🚆

  • ขึ้น รถไฟ Trenitalia จาก สถานี Milano Porta Garibaldi (9:39) -> สถานี Como S. Giovanni(10:38) สามารถซื้อตั๋วออนไลน์ Trenitalia ในเว็บ GoEuro ได้เลยมีหลายแบบ รถไฟเร็ว ช้า ฉึกฉัก เลือกตามสไตล์ได้เลยคะ (9.6 euros/2 = 4.8€ ประมาณ 187฿)
Simone 7978 July 5, 2013 Retrieved 16JUL2018 FROM https://c2.staticflickr.com/8/7445/9502147710_e27b8300fb_b.jpg / Hans Permana May 14, 2017 Retrieved 16JUL2018 FROM https://c1.staticflickr.com/5/4344/36601834511_5b4ccc5030_b.jpg / Paolo April 14, 2008 Retrieved 16JUL2018 FROM https://c1.staticflickr.com/3/2336/2470743749_50d0ed02d2_b.jpg
Trenitalia

ขั้นสอง เช็คอิน โรงแรม Best Western Hotel Continental Como( Xi, 15 ,Como, Italy ) โรงแรมนี้สะอาด ถูกใช้ได้เลยค่ะ แต่ต้องระวังหน่อยนะคะเพราะทางโรงแรมเล่าให้ฟังว่ามีคนจองผิดเยอะเลย ถ้าจะให้ชัวร์จองผ่านบริษัทตระกูลเฉินแบบเราชัวร์แน่นอน ราคาก็ถูกด้วยค่า

https://www.hotelplanner.com Retrieved 23-JUL-2018 from https://images.trvl-media.com/hotels/1000000/10000/9400/9354/9354_136_z.jpg / https://media.expedia.com/hotels/1000000/10000/9400/9354/9354_153_z.jpg
Best Western Hotel Continental Como

แผนที่

ขั้นสาม เดินทางไปเที่ยว เมืองเบลลาโจ

รถไฟรอบเราไป COMO (แถวบนสุด) Delay ก็ต้องรอต่อไปค่า
  • เดินจากโรงแรมไปซื้อ Sandwich ชื่อดัง “Tigella Bella
  • เราจะพานั่งเรือจาก เมือง โคโม่ (Como) – เมือง เบลลาโจ (Bellagio) ส่วนตัวจะนั่งเรือเร็วไป สบายและใช้เวลาแค่ 1ช.ม. ก็ถึง หรือจะนั่งเรือธรรมดาก็ได้แต่จะใช้เวลา 2 ช.ม. และนอกจากนี้ก็สามารถนั่ง BUS ได้ด้วยนะคะ
  • แต่ถ้ามาจาก มิลาน แนะนำนั่งรถไฟจาก สถานี Milano Centrale สถานี Varenna ใช้เวลาเดินทาง 1 ช.ม. แล้วนั่งเรือเฟอร์รี่ จาก Varenna – Bellagio (15 นาที)
  • ซื้อตั๋วเรือ ต้องซื้อที่จุดขายตั๋วไม่สามารถซื้อออนไลน์ได้ (14.80 = 580฿) แต่ตั๋วมีหลายแบบขึ้นอยู่กับ season นะคะ ตอนแรกเราอยากซื้อตั๋วเรือที่ไปได้ทุกเกาะแต่ season นี่ไม่ใช่ high season เค้าเลยไม่มีตั๋วแบบนี้ค่า
    COMO

     

แพลนเที่ยวอิตาลี 9วัน 8คืน ด้วยตัวเอง #2018
speed boat น่าตาของเรือสปี๊ทโบ๊ท และตั๋วเรือ

ถึง Bellagio แล้ว

โรงแรม Best Western Hotel Continental Como ( Xi, 15 ,Como, Italy ) ราคาคืนละ ( 26.75€ = 1043฿) ด้วยรถบัส

 


วันที่สาม  @ เวโรน่า 9°C /1°C (วันเสาร์ 24 ก.พ. 2561)


ทาน อาหารเช้า  ที่โรงแรมไม่ทันค่ะเพราะรอบรถไฟเช้า

ขั้นแรก สถานี Como S. Giovanni -> สถานี Verona Portauova 

  • นั่งรถไฟ Trenitalia จาก สถานี Como S. Giovanni -> สถานี Verona Portauova (ออก 7:13 น. ถึง 10:15 น.) (16.25€ = 635฿)

ขั้นสอง เดินทางไปเก็บกระเป๋า โรงแรม Sottoriva36 Hotel

  • นั่ง รถบัสเมืองเวโรน่า (City Bus) ไปลง แถว โรงแรม เสียค่าโดยสาร รถบัสเมืองเวโรน่า (City Bus) (1.30€ = 50฿)
เมืองเวโรน่า
  • เก็บกระเป๋าก่อนเดินเที่ยว ห้องพักวิวสวยมากค่า

ขั้นสาม เดินเล่นเวโรน่าให้ทั่วจะรู้ว่ามีอะไรที่สวยงามมากมาย และก็เป็นเมืองเล็กน่ารักสามารถเดินเที่ยวได้ทุกที่จริงๆ ⇓ ⇓ ⇓


อย่างที่บอกนะคะว่า verona เป้นเมืองเล็กๆสามารถเดินเที่ยวได้ทั่วยิ่งถ้ามีที่พักที่ไม่ไกลจากสถานที่ท่องเที่ยวมากนักขอแนะนำว่าไม่ต้องซื้อ verona card แค่ซื้อบัตรขึ้น Torre dei Lamlerti 5 ยูโร กับบัตรโดยสารไม่กี่ใบ 1.3 ยูโร (เราใช้ 2 ใบ ไป-กลับ สถานีรถไฟกับโรงแรม) ก็จะคุ้มกว่าค่า

Luciana.Luciana August 13, 2008 Retrieved 17JUL2018 FROM https://c2.staticflickr.com/4/3218/2789192445_8a9210d1ba_b.jpg / M_Strasser April 2, 2014 Retrieved 17JUL2018 FROM https://c2.staticflickr.com/8/7298/14121198092_2ca1d2d44d_b.jpg
Torre dei Lamberti

Torre dei Lamberti เป็นหอคอยที่สูงที่สุดในเวโรน่า สูง 84 เมตร ขึ้นไปชมวิวบนหอคอยได้ด้วยลิฟต์และบันได 245 ขั้น ด้านบนมีระฆังที่ใช้ตีบอกเวลา เตือนเวลามีไฟไหม้ และคอยสอดส่องศัตรู ค่าเข้าชม 5.00€ = 195฿

Casa di Giulietta / Juliet House

Casa di Giulietta / Juliet House ถ้าได้เข้าไป จะสังเกตได้จากภายในบริเวณบ้าน บนกำแพงและพื้นที่ใต้ระเบียงอันโด่งดังนั้น กลับเต็มไปด้วยข้อความบอกรักและคำอธิษฐานเกี่ยวกับความรัก อัดแน่นอยู่จนแทบไม่มีที่ว่าง นอกจากนั้นยังเชื่อกันว่า หากได้สัมผัสหน้าอกของรูปปั้นจูเลียตที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณบ้านแล้ว จะทำให้มีโชคดีด้านความรัก และกิจกรรมที่ฮิตไม่แพ้กันนั่นก็คือ การขึ้นไปยืนบนระเบียงหินอ่อน จะมีคู่หนุ่มสาวไปจูบแสดงความรักกัน ถึงแม้ใครจะมาคนเดียวเชื่อว่ากลับจากเวโรน่าไปจะได้พบรักแท้ และมาเยือนที่นี้อีกครั้ง

Dimitris Kamaras October 13, 2017 Retrieved 18JUL2018 FROM https://c1.staticflickr.com/5/4501/37521025740_9855f94753_b.jpg / traveljunction October 11, 2013 18JUL2018 FROM https://c2.staticflickr.com/4/3932/15388460559_9fb8a64a7f_b.jpg
Arena di Verona

Arena di Verona เป็นเมืองขึ้นของอาณาจักรโรมัน ตอนนี้สิ่งปลูกสร้างที่สำคัญที่สุดยังคงหลงเหลือให้เห็นอย่างค่อนข้างสมบูรณ์ คือ The Amphitheatre หรือ The Arena ซึ่งมีขนาดใหญ่ติด 1 ใน 3 ของ Amphitheatre ในอิตาลี Arena ถูกใช้เป็นที่ต่อสู้ของเหล่า Gladiator รวมถึงงานรื่นเริงต่าง ๆ ของเมือง ซึ่งปัจจุบันก็ยังคงใช้อยู่

แวะทาน Bigoi Verona ขึ้นชื่อของเวโรน่า เป็นสปาเก็ตติ ที่ร้านทำเองสดๆ รสชาติมีความฟินมากกก เส้นเด้งๆ ต้องลองมาชิมกันดูค่ะ เราซื้อเส้นกลับมาด้วย แต่ขอเตือนก่อนนะคะว่าเส้นสดจึงต้องนำไปปรุงอาหารภายในไม่กี่วัน
แถวๆ Bigoi มีร้าน Queen’s chips เป็น French Fries จาก Amsterdam ชิ้นหนากรอบมีซอสให้เลือกเยอะแยะเลย อร่อยมากค่า

Silver_63 January 6, 2017 Retrieved 18-JUL-2018 from https://c1.staticflickr.com/1/447/32022891972_71621d80bc_b.jpg
Castel San Pietro

Castel San Pietro ปราสาทที่มีความงดงามมาก สามารถขึ้นไปชมวิว ทิวทัศน์ของเมืองนี้ได้อย่างสวยงามที่ชั้นด้านบน 270 องศา เราต้องเดินไปที่สะพาน Castelvecchio Bridge เดินไปเรื่อยๆ ปราสาทจะอยู่ซ้ายมือ

Gelateria Ballini เป็นร้านไอศกรีมที่อร่อยที่สุดในเวโรน่าก็ว่าได้เพราะคนในพื้นที่แนะนำกัน และมันก็อร่อยมากจริงๆ กินเสร็จก็กลับไปนอน 55555 มันต้องผอมแน่ๆ

ขั้นสี่ กลับเข้าสู่ โรงแรม Sottoriva36  (คืนละ  80€ /2 = 40€ ประมาณ 1552฿)

 


วันที่สี่ @เวนิส 8°C /1°C (วันอาทิตย์ 25 ก.พ. 2561)


รับประทานอาหารเช้า  (ให้บริการตั้งแต่  8.00-10.00 ริมแม่น้ำ Adige) ที่พักเราจะมีห้องทานข้าวส่วนตัวพร้อมวิว ห้องนี้ host จะเปิดให้ตอนเช้าพร้อมทำอาหารให้เรามากมายที่พักนี้คือดีจริงๆ host ก็น่ารักใจดี เราขอแนะนำเลยค่า

Breakfast @Sottoriva36 Hotel

ขั้นแรก เดินทางไป เวนิส โดยรถบัส (Flixbus) 🚍

  • เดินทางจาก Verona ไป Porta Nouva โดยรถบัส City Bus (1.30€ = 50฿)
  • Verona, Porta Nuova (10:25) ไป เมือง Venice (11:45) โดยรถบัส (Flixbus) (8.9€ = 345฿)
Anthony Levrot August 24, 2017 Retrieved 18-JUL-2018 from https://c1.staticflickr.com/5/4553/27260720469_3e4d785552_b.jpg
FLIXBUS

FLIXBUS เป็นรถบัสที่ให้บริการภายในทวีป คล้ายๆรถทัวร์แต่ก็ไม่คล้าย (เอ๊ะ ยังไง555) ให้บริการทุกประเทศ ทุกเมืองในทวีปยุโรป (แต่ก็ต้องเช็คดูให้แน่ใจดีๆ) เช่น ลอนดอน ปารีส เวโรน่า เป็นต้น มีจนถึง Night Bus ก็คือ เวลาที่ได้เดินทางจะเป็นช่วงเย็น บ่ายที่ถึงเย็น หรือช่วงตี1 ตี2 ก็มี ซึ่งถ้าเป็นผู้หญิงก็จะเหนื่อยหน่อยเพราะกว่าจะถึงที่พักกว่าจะนอนก็คงเหนื่อยล้า ต้องดูเวลากันให้ดีๆ
ราคาถูกดีนะคะถ้าไม่ห่วงเรื่องเวลาเดินทางที่นานกว่ารถไฟซื้อรอบไหนก็ต้องตรงเวลานะคะ เพราะเรามาสายเนื่องจาก BUS แถวที่พักไม่ได้จอดให้เราขึ้น (คือขับผ่านไปเลย…งง) เราจึงต้องรอ Bus รอบตอ่ไป เลยไป Flix Bus เลท 1 นาทีเห็นรถขับผ่านเราไปเลยสุดท้ายก็ต้องซื้อตั๋วรถไฟไปแทน

Kelly Hunter October 23, 2011 Retrieved 18-JUL-2018 from https://c2.staticflickr.com/8/7170/6445070077_114a6eaced_b.jpg
Water Buses Venice

Venice Pass ค่าบัตรเหมา 2 วัน (30€ = 1164.18฿) รวมรถประจำทาง (include buses) และ เรือเมล์ (water buses) ต้องขออธิบายก่อนว่า บัตร Venice Pass คือ บัตรที่ใช้บนเรือเมล์ รถประจำทาง ต่างๆ สำหรับแทนการจ่ายเงินนั้นเอง แต่ก็จะเหมาะกับคนที่มาเที่ยวเวนิส 2 วันขึ้นไปที่จะมาเพื่อดื่มด่ำและท่องเที่ยวชมเมืองอย่างจริงจัง แบบ City Tour เพราะถ้ามาวันเดียวมันคงไม่คุ้มเท่าไหร่ แต่ก็ต้องดูดีๆว่า เราต้องการเหมากี่วัน (1 วัน ราคา 20 ยูโร / 2 วัน ราคา 30 ยูโร / 3 วัน ราคา 40 ยูโร / 7 วัน ราคา 60 ยูโร )

ขอบเขตของการใช้ตั๋วคือใช้ได้กับเรือเมล์ทั้งเกาะเวนิซรวมถึงไปเกาะต่างๆ ใกล้เคียงอย่างเช่น มูราโน่ บูราโน่ ลิโด้ และสามารถใช้กับรถเมล์ที่จะไป Mestre ได้ บัตรนี้ไม่สามารถใช้ไปสนามบินมาร์โคโปโล

การใช้บัตร

ก็เพียงแค่นำบัตรไปประทับที่เครื่อง Validate ที่ติดตั้งอยู่ที่ทุกท่าเรือ เมื่อประทับบัตรที่หน้าเครื่องจะขึ้นไฟสีเขียวและมีเสียงปี๊บแปลว่าใช้งานได้ หากประทับบัตรแล้วขึ้นไฟสีแดงแปลว่าบัตรมีปัญหาหรือไม่ก็หมดอายุใช้งานบัตรแล้ว การประทับบัตรต้องทำทุกครั้งที่จะขึ้นเรือ การขึ้นเรือโดยไม่มีบัตรหรือไม่ Validte บัตรอาจโดนปรับหากถูกตรวจ

จากนั้น เก็บบัตรผ่านเมืองเวนิสที่เครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติของ ACTV เพื่อที่จะใช้กับรถเมล์ ไป MESTRE STAZIONE FS (สถานีรถไฟ)

ขั้นสอง เดินไป โรงแรม  AO Hotel Venezia Mestre 🏩

การพักใน venice ถือว่าแพงพอสมควรเราเลยพักที่ venice Mestre ค่ะ เราสามรถนั่ง Bus เข้าไปใน venice ได้แปปเดียวโดยใช้บัตร Venice Pass ของเรานี่เอง สำหรับใครที่ Travel on budget ก็ขอแนะนำให้พักใน Venice Mestre แบบเราค่า

https://www.aohostels.com/ Retrieved 11JUL2018 FROM https://cdn.aohostels.com/img/house/gallery/venezia-mestre/31083.jpg / https://cdn.aohostels.com/img/house/gallery/venezia-mestre/44284.jpg
AO Hotel Venezia Mestre

แผนที่ จาก Venice Mestre เข้าไปใน Venice

ขึ้นรถบัสตรงไปยัง สถานี Piazza San Macro : ป้ายรถเมล์ (สาย 2) ที่ไปถึงเมืองเวนิสจะอยู่ทางด้านขวาของสถานีรถไฟ (รถบัสใช้เวลาประมาณ 15 นาทีไปยัง Piazzale Roma)

ShutterMonKey September 23, 2008 Retrieved 19-JUL-2018 from https://c2.staticflickr.com/4/3122/2916510240_0f9ebe256f_b.jpg
Piazza San Marco

 

Sergey Galyonkin February 20, 2017 Retrieved 19-JUL-2018 from https://c1.staticflickr.com/3/2082/32202699153_c88b62ba73_b.jpg / https://c1.staticflickr.com/3/2906/32976176736_fcc47de9b4_b.jpg / https://c1.staticflickr.com/3/2535/33017763375_9d2090543f_b.jpg / https://c1.staticflickr.com/3/2308/32173596654_fb20472108_b.jpg / https://c1.staticflickr.com/3/2924/32892318441_55890ebe49_b.jpg
Carnival in Venice

Piazza San Marco เป็นจัตุรัสเดียวของเวนิสที่มีชื่อว่า Piazza เพราะส่วนที่เหลือนั้นจะเรียกว่า Campo เป็นหนึ่งในจัตุรัสที่ดีที่สุดของเวนิสและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองเวนิสที่ล้อมรอบไปด้วยอาคารสาธารณะอันงดงาม โดมของมหาวิหารและซุ้มประตูของมหาวิหารซานมาร์โกและหอระฆังเซนต์มาร์คซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของเวนิส

James Abbott July 4, 2016 Retrieved 19-JUL-2018 from https://c1.staticflickr.com/9/8487/29081573965_5287580755_b.jpg
Campanile di San Marco

จุดเด่นของวิหารคือ Campanile di San Marco ถูกบูรณะขึ้นใหม่เมื่อ ค.ศ. 1912 เมื่อเกิดพังมาโดยไม่คาดคิด หอระฆังของโบสถ์ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นจุดเด่นและเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากที่สุดแห่งหนึ่งบนจัตุรัสแห่งนี้ สามารถมองเห็นวิวเวนิสได้อย่างน่ามหัศจรรย์

Sergey Galyonkin February 20, 2017 Retrieved 19-JUL-2018 from https://c1.staticflickr.com/3/2782/32173084824_b6eba859a5_b.jpg
Saint Mark’s Basilica, Venice

หากมีคิวไม่มากเกินไปต้องไปที่มหาวิหารเซนต์มาร์ค Saint Mark’s Basilica, Venice  รวมภาพโมเสคที่สวยงาม ฉูดฉาดที่เรียงรายอยู่ภายในโดมอันยิ่งใหญ่ห้าแห่งนี้

Sergey Galyonkin February 20, 2017 Retrieved 19-JUL-2018 from https://c1.staticflickr.com/3/2253/32975055616_6114bfac26_b.jpg / https://c1.staticflickr.com/1/376/32172151954_53f2ffe50e_b.jpg / https://c1.staticflickr.com/3/2232/32863291012_08c6bf6dec_b.jpg
Rialto bridge

ต่อไปตามป้ายสีเหลืองไปยังสะพาน Rialto เป็นสะพานที่มีตลาดปลาและผักซ่อนตัวอยู่ด้านข้างเป็นที่น่าสนใจมาก เพราะเต็มไปด้วยสีสัน เสียงและกลิ่นของทะเล

 

https://www.facebook.com/pg/gelatotecasuso JULY 8, 2016 Retrieved 19-JUL-2018 from https://www.facebook.com/gelatotecasuso/photos/a.1041087772635660.1073741827.131996670211446/1060619004015870/?type=3 / https://www.facebook.com/pg/gelatotecasuso JUNE 8, 2016 Retrieved 19-JUL-2018 from https://www.facebook.com/gelatotecasuso/photos/ms.c.eJwzNDAxMjYyM7c0MjU0NDe10DOECFgagQVMTAFwqQak.bps.a.1042326239178480.1073741828.131996670211446/1042326792511758/?type=3&theater
Gelato Teca Suso

 

Gelato Teca Suso

Gelatoteca Suso เป็นร้านไอศกรีมขึ้นชื่อของเวนิส ใครได้มาต้องมาซื้อและถ่ายภาพมุมนี้ 55555 รสชาติอร่อยๆมากๆ ฟินมากใครชอบ white chocolate เราขอแนะนำ Hot white chocolate เข้มข้นมาก ดื่มตอนอากาศเย็นๆ ฟินเลย อร่อยจนเราต้องกลับมากิน 3 รอบเลยค่า

ต้องบอกก่อนว่า เจลาโต้ หรือไอศครีมชนิดนี้มีต้นกำเนิดมาจากอิตาลีค่ะ ที่อิตาลีเราจะเห็นร้านที่ลงท้ายด้วย gelato, gelatoni, gelatini หลายร้านเพราะทุกคำก็มีความหมายที่แปลว่าไอศครีม ไอศครีมแบบเจลาโต้จะเป็นไอศครีมที่มีความหนืดกว่าและละลายช้ากว่าไอศครีมบ้านเราที่คุ้นเคยกันดี ที่สำคัญเลือกรสไหนหรือแวะร้านไหนในโรมก็อร่อยไปหมด แทบเผลอใจทำเอวหายไปในอิตาลีเพราะเจลาโต้นี่เลย

 

Ponte dell’ Accademia

Gallerie dell’Accademia ตั้งอยู่ใกล้สะพาน Ponte dell’ Accademia เป็นหอศิลป์แห่งกรุงเวนิสที่ได้ทิ้งร่องรอยแห่งการพัฒนาศิลปะเวนิสตั้งแต่ในศตวรรษที่ 14 ถึง 18 ผ่านผลงานทางศิลปะของศิลปินที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากมาย เป็นงานที่มีสีสันสดใส  ซึ่งแสดงให้เห็นถึงเสน่ห์แห่งความเย้ายวนใจอันเก่าแก่ของเมืองเวนิสเป็นต้นตำหรับแห่งสีสันและละคร 

เข้าสู่ที่พัก โรงแรม AO Hotel Venezia Mestre (คืนละ 78.86€/2 = 39.43€ สำหรับ 2 คืน + 7€ สำหรับอาหารเช้า 2 วัน ประมาณ 1803.24฿/1คน)

 


วันที่ห้า @เวนิส 7°C /0°C (วันจันทร์ 26 ก.พ. 2561)

วันนี้เราจะมาเที่ยวเกาะรอบๆเวนิสกันค่ะ


 

Vaporettos , The Ferries
  • นั่งรถบัสมาสถานี Piazza San Macro station เดินไปบริเวณสะพาน Riato Bridge 
  • เริ่มจากสะพาน the Rialto bridge เดินจาก the Grand Canal (หลังสะพาน) ไม่นานก็จะเจอ เรือเฟอร์รี่ และเราก็ไม่พลาดที่จะต้องนั่งเรือ vaporettos เพราะการขนส่งในเวนิสส่วนใหญ่จะเป็นเรือ จะเดินทางขนส่งทั่วเมืองเวนิส เรือเฟอร์รี่ที่จะไปคือ เฟอร์รี่ 12 The Burano ferry จะหยุด 3 จุดและวนมากลับมาที่เดิม จุดที่ 1 Murano จุดที่ 2 Burano จากนั้นวนกลับไปที่ จุดที่ 3 Venice เฟอร์รี่จะมีรอบทุกๆ 20 น.
Hervé Simon September 10, 2015 Retrieved 19-JUL-2018 from https://c1.staticflickr.com/5/4689/39421810201_c9893532da_b.jpg / Lucia Simoes June 24, 2007 Retrieved 19-JUL-2018 from https://c1.staticflickr.com/3/2227/2340303121_1cabe2b9a8_z.jpg?zz=1
Murano

Murano เยี่ยมพิพิธภัณฑ์แก้ว เป็นของชำร่วย หรือสิ่งของต่างๆที่ทำจากแก้ว เช่นพวงกุญแจ โมเดลต่างๆ ที่ซ่อนความสวยงาม หลากสีสันที่ถูกออกแบบลวดลายไว้อย่างดี เช่น ผลงานของทีม  Schiavon Art Team

หลังจากนั้นเราก็เดินไปขึ้นเรือจาก Murano ไป Burano ค่ะ

ลงจากท่าเรือแล้วก็จะเจอร้าน Fritto Misto ค่า คืออาหารทะเลทอด ความพิเศษอยู่ที่ถาดที่ทานได้ด้วย รถชาติเหมือน Biscuit เลย ส่วนอาหารทะเลสดดีค่ะ รวมๆแล้วถูกและดีมาก ถือว่าไม่ต้องไปทานร้านหรูใน Venice ก็อร่อยได้!

Fritto Misto

 

Burano

Burano  เป็นเกาะเล็กๆที่สวยงามทางตอนเหนือของทะเลสาบเวนิส มีชื่อเสียงในด้านการทำลูกไม้และสำหรับบ้านชาวประมงที่มีสีสันสดใส เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่จัดได้ว่าเป็นสวรรค์สำหรับช่างภาพ จุดเด่นที่จะสังเกตเห็นคือ ล้านจะมีลักษณะเป็นกล่องๆ สีสันสดใส ทำให้เค้าเรียกเกาะนี้กันว่า เกาะลูกกวาด

ส่วนเราก็ไม่พลาดที่จะซื้อของฝาก ด้านอาหาร แนะนำให้ซื้อใน Shop ที่คน Locals เค้าซื้อกันนะคะจะถูกกว่า

ของที่ระลึก บนถนน Galuppi

Galuppi ซึ่งเป็นถนนสายหลักของเกาะ Burano เรียงรายไปด้วยร้านขนมและของที่ระลึก บาร์และร้านอาหาร หากคุณกำลังมองหาสถานที่พักผ่อนและเพลิดเพลินกับแสงแดดคุณสามารถเพลิดเพลินกับความเงียบสงบและความงามของคลอง

กลับเข้าสู่ โรงแรม AO Hotel Venezia Mestre

 


วันทีหก @เวนิส , ฟลอเรนซ์ (วันอังคาร 27 ก.พ. 2561)


  • เดินทางจาก สถานี Venice Mestre (9:35) ไป สถานี Piazzale Montelungo, Firenze (13:05) ทางตรงของ Flixbus (12.9€ = 500.59฿) (ได้ส่วนลด 5€)
  • เดินไปที่โรงแรม Rex Florence เพื่อนำกระป๋าไปเก็บ
http://www.hotelrexflorence.com/ Retrieved 19-JUL-2018 from http://www.hotelrexflorence.com/inc/slider/01.jpg
Hotel Rex Florence
Gelato Carabè, Via Ricasoli

Gelato Carabé (Carabè, Via Ricasoli) Or La Strega Nocciola แวะซื้อไอศกรีมก่อนเดินเล่นในเมือง Florence

 

https://www.visitflorence.com/ Retrieved 19-JUL-2018 from http://cdn3.discovertuscany.com/img/food/florence/pizzaiuolo-caprese.jpg?w=750&q=65
Pizza

ทานอาหารเที่ยง Pizza in Florence

Gelato Gelateria dei Neri

Gelato Gelateria dei Neri แวะทานไอศกรีมอีกแล้ว ชอบ อร่อยยยยยยยยยย คนขายหรือไอศกรีม

Sergey Galyonkin February 19, 2017 Retrieved 20-JUL-2018 FROM https://c2.staticflickr.com/4/3835/32867273591_8efd6764d4_b.jpg
Galleria dell’ Accademia

Galleria dell’Accademia เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองฟลอเรนซ์ เป็นสถานที่เก็บรวบรวมต้นฉบับของผลงานศิลปะชื่อดังมากมายของเมืองฟลอเรนซ์ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ส่วนมากคือประติมากรรมหินอ่อนขนาดยักษ์ที่สร้างขึ้นโดย Michelangelo และ David อันรุ่งโรจน์ นอกจากนั้นหากสำรวจโดยทั่วพิพิธภัณฑ์ Galleria dell’Accademia ก็มีหลายอย่างที่น่าสนใจนำเสนออยู่ภายในทั้งในเรื่องของพฤกษศาสตร์ดนตรี สัญลักษณ์ศิลปะและเทคนิคการวาดภาพ

Cathedral of Santa Maria del Fiore

Cathedral of Santa Maria del Fiore and Piazza Duomo วิหาร “เซนต์แมรีแห่งบุปผา” และโดมที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของฟลอเรนซ์ เป็นที่รู้จักกันในนาม ดูโอโม และมีโดมอันงดงามและใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งถือว่าเป็นความสำเร็จที่สำคัญที่สุดทางด้านสถาปัตยกรรมของยุคเรอเนสซองส์ มีบันได 463 ขั้นไม่มีลิฟต์ บนจุดสูงสุดเป็นจุดศูนย์กลางเมืองฟลอเรนซ์ เป็นวิหารที่ตั้งอยู่กลางจัตุรัส Piazza del Duomo อันเป็นศูนย์กลางของเมืองฟลอเรนซ์จุดเด่นของมหาวิหารแห่งนี้คือโดมสีส้มขนาดใหญ่และโครงสร้างภายนอกอาคารที่เป็นหินอ่อนสีขาว แต่งด้วยหินสีเขียวและชมพูที่ได้รับการตกแต่งด้วยหินแกะสลัก

Ben The Man August 14, 2012 Retrieved 19-JUL-2018 from https://c1.staticflickr.com/9/8496/8359060356_be478421fa_b.jpg
The San Lorenzo Market

The San Lorenzo ร้านค้าปลีกริมถนนมากมายและร้านค้าปลีกจำหน่ายสินค้าเครื่องหนัง Mercato Nuovo อันสวยงามซึ่งทำหน้าที่เป็นตลาดกลางแจ้งตั้งแต่ยุค Renaissance กระเป๋าเข็มขัดและสินค้าเครื่องหนังอื่น ๆ แต่เราขอแนะนำให้ซื้อสินค้าที่นี่ให้น้อยที่สุด

Ponte Vecchio

Ponte Vecchio (สะพานเวคคิโอ) เป็นสะพานที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองฟลอเรนซ์  สะพานแห่งนี้นั้นเดิมทีถูกสร้างขึ้นมาเพียงเพื่อใช้เป็นทางสัญจรในการข้ามแม่น้ำอาร์โน  ลักษณะของสะพานเป็นสะพานที่โค้ง 3 อันคร่อมแม่น้ำอาร์โน  ภายในสะพานประกอบไปด้วยร้านค้าสีเหลืองสดใสและมีหน้าต่างรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสเล็กๆ ภาพของอาคารสะท้อนบนผิวแม่น้ำนั้นเป็นอีกหนึ่งในภาพที่จัดได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของเมืองฟลอเรนซ์

Da Nerbone มีธุรกิจตั้งแต่ 1872 สำหรับอาหารกลางวันที่ราคาไม่แพง ใน The Mercato Centrale หรือจะเป็นร้าน Caffé Gilli สำหรับกาแฟและขนมอบสุดคลาสสิก ด้วยราคาที่เหมาะๆ 

แถวโรงแรมมีร้านอาหารอยู่เยอะแยะมากมาย เลยกลับมาทานข้าวเย็นแถวโรงแรมก่อน กลับเข้าสู่ โรงแรม Rex Florence Via delle (Ruote 52, 50129 Florence, Italy) (€ 45.90/2 = € 22.95 ประมาณ 891.73฿ รวมอาหารเช้า)


 

วันที่เจ็ด @ฟอเรนซ์ , ปิซ่า ,ซองเกอร์ แตร (วันพุธ 28 ก.พ. 2561)


อาหารเช้า ณ โรงแรม Rex Florence Via delle อาหารส่วนมากจะเป็น ขนมปัง แฮม โยเกิร์ต กราโนล่า

  • เดินไปขึ้นรถบัส ที่ป้าย Piazza Monte Lungo Florence
  • เริ่มจาก Piazza Monte Lungo Florence (09:00) to Pisa (10:35) (จอดรถที่ Pietrasantina ) เดินทางยาวไปเลยถึง Pisa โดย Flixbus 2.9€ = 112.68฿ )
  • นั่งรถบัสไป Leaning Tower
Piazza del Duomo
Dot Scott October 20, 2017 Retrieved 20-JUL-2018 FROM https://c1.staticflickr.com/5/4479/37770283726_40da612587_b.jpg
Leaning Tower

Leaning Tower หอเอนเมืองปิซ่า  เป็นหอระฆังสูงใหญ่ของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่ซึ่งตั้งอยู่ที่จัตุรัส Piazza del Duomo เมืองปิซา เป็นหอระฆังที่สร้างด้วยหินอ่อนสีขาว ซึ่งมีเอกลักษณ์โดดเด่นที่ความเอนเอียงของหอระฆังซึ่งยอดของหอระฆังนั้นห่างจากแนวตั้งฉากของพื้นไปประมาณ 3.9 เมตร

Charlie Chapman 75 December 17, 2011 Retrieved 20-JUL-2018 FROMhttps://c2.staticflickr.com/8/7203/6942730099_faa6e26f5a_b.jpg
The Field of Miracles
John April 18, 2017 Retrieved 20-JUL-2018 FROM https://c1.staticflickr.com/5/4194/34358255401_aeeb516ae1_z.jpg
Baptistery of St. John

The Baptistery of St. John เป็นมหาวิหารที่สวยงามและเก่าแกของฟลอเรนซ์ อยู่ตรงบริเวณด้านหน้าของวิหาร Santa Maria del Fiore ชาวคาทอลิกทุกคนในเมืองฟลอเรนซ์นั้นล้วนแล้วแต่เข้าพิธีรับศีลจุ่มภายในประตูนี้ทั้งสิ้น  ปัจจุบันนี้นั้นในทุกวันอาทิตย์แรกของเดือนก็ยังคงมีเด็กเล็กๆ ที่อาจได้เข้ามารับศีลล้างบาป แต่เนื่องจากพื้นที่ที่จำกัดและเวลาที่จำกัดทำให้ไม่สามารถจะเข้ารับทำพิธีได้หมด

The Baptistery เป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดของนักเรียน นักศึกษาเลย เพราะยิ่งถ้าเป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรี และเดินรอบ The Baptistery จะทำให้ไม่ได้รับปริญญา  ตามตำนานที่เล่าขานกันมา…

  • ระหว่างทางกลับจากทาวเวอร์ไปยังสถานีรถไฟปิซาคุณสามารถนั่งรถบัสเดียวกันจากอีกฟากหนึ่งของถนนไปยัง Pisa Centrale
  • จาก Pisa Centrale (13:24) ไปยัง โรงแรม  Riomaggiore (15.23) โดยรถไฟ Trenitarail (26 min) ต่อรถที่ La Spezia Centrale (8.6€ = 335.35฿)
Sailors Rest Riomaggiore – Cinque Terre

Check in โรงแรม Sailors Rest Riomaggiore – Cinque Terre ของหมู่บ้าน Riomaggiore เป็นหมู่บ้านที่สวยติดอันดับแต่จะถ่ายรูปให้สวยต้องถ่ายจากเรือแล้วมองกลับมาครับ ถ้าตัวหมู่บ้านเองถ่ายไม่ค่อยแจ่ม ค่าห้องพักคืนละ (€ 79.20/2 = €39.6 ประมาณ 1544.16฿ รวมอาหารเช้า)

Riomaggiore


The hiking trail Via dell’ Amore (Lovers’ lane)
เป็นเส้นทางการเดินทาง ที่มีชื่อเสียง และโรแมนติกที่สุด ในเมือง Cinque Terre เชื่อมต่อกับหมู่บ้านอันงดงามของ Riomaggiore และ Manarola และมีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตรเท่านั้น Via dell’Amore ของ Sentiero Azzurro (ทางสีน้ำเงิน) ซึ่งใช้เป็นทางเดินสำหรับคนที่เดินทางจาก Riomaggiore ไปยัง Monterosso หรือ เดินไป Monterosso และนั่งรถไฟกลับ (แต่ตอนนี้ปิดอยู่นะคะ)

คืนนี้เราก็เอาเส้น สปาเกตติ ที่ซือ้มาจากร้าน Bigoi Verona และเครื่องปรุงต่างๆที่ซื้อมาจาก Supermarket แถวที่พักมาทำอาหารค่ำทานกันเองค่ะ มีครัวทั้งทีก็ต้องใช้ให้คุ้มหน่อย

 


วันที่แปด @ซองเกอร์ แตร , โรม (วันพฤหัสบดี 1 มี.ค. 2561)


รับประทานอาหารเช้า ที่ the BAR CENTRALE ( ที่รวมอยู่ในค่าที่พักของเรา ) ไม่ไกลจากห้องนอนของเรามากนัก ถึงที่พักจะสวยแลพใหญ่แต่อาหารเช้าที่แถมให้เป็นแค่ Bakery กับเครื่องดื่มเราเลยต้องกลับไปทำอาหารเช้าทานกับเพื่อนที่ห้องพักค่ะ

  • เดินเล่นรอบๆหมู่บ้าน Riomaggoire และเดินทางไป Roma Termini
  • โดยนั่งรถไฟ  Trenitarail จาก Riomaggoire (09:45)  – Roma Termin (15:48) แต่ต้องต่อรถที่ La Spezia Centrale และต่อที่ Pisa Centrale จึงจะถึง Roma Termin (29.65€ = 1156.17฿)

Check in โรงแรม Hotel Fellini เดินเล่นรอบๆโรงแรม

http://www.hotelfellini.com/ Retrieved 20-JUL-2018 FROM http://www.hotelfellini.com/utenti/img/308double-room-7.jpg / http://www.hotelfellini.com/utenti/img/324vista-sul-quirinale-1.jpg
Hotel Fellini

 

Atibordee Kongprepan April 6, 2014 Retrieved 20-JUL-2018 FROM https://c2.staticflickr.com/6/5106/13972414026_96315e027d_b.jpg
Trevi Fountain

Trevi Fountain (น้ำพุ เทรวี่)   เราก็ไปต่อกันใกล้ๆ ที่ น้ำพุเทรวี่ ที่มีคนบอกว่า ถ้าไปถึงน้ำพุแห่งนี้แล้วให้ยืนหันหลังแล้วโยนเหรียญข้ามศีรษะไปพร้อมอธิษฐาน จะได้กลับมายังน้ำพุที่แสนสวยงามแห่งนี้อีก น้ำพุเทรวี่ เป็นที่รู้จักจากภาพยนตร์เรื่อง “Three Coins in the Fountain” ส่วนกลางของน้ำพุ ออกแบบเป็นรูปปั้นของเทพเจ้าเนปจูน (Neptune) ขี่รถม้าติดปีก แสดงถึงความมีสุขภาพที่แข็งแรง และความอุดมสมบูรณ์ของอาณาจักร เป็นสถานที่ที่มีคนแน่นขนัดตลอดเวลา ต้องระวังกระเป๋าและทรัพย์สินมีค่ากันดีๆ นะ!

Michele Moroni December 14, 2013 Retrieved 20-JUL-2018 FROM https://c2.staticflickr.com/6/5567/15149750645_6284ea2a07_b.jpg
Piazza Colonna

เดินลงมาเรื่อยๆจะเจอ The Piazza Colonna จะอยู่แถวๆ Marcus Aurelius ถัดจาก 2 ถนนไปเลี้ยวซ้ายจะเจอ The Via delle Muratte  มุ่งหน้าสู่ The Capitoline Hill 

cwinterich June 8, 2005 Retrieved 20-JUL-2018 FROM https://c1.staticflickr.com/3/2706/4093660308_065862da94_b.jpg / alifisch1024 October 19, 2013 Retrieved 20-JUL-2018 FROM https://c1.staticflickr.com/3/2827/10544928343_db7901f54a_b.jpg / davidkemp1 August 1, 2011 Retrieved 20-JUL-2018 FROM https://c2.staticflickr.com/8/7164/6853228173_b851dcecbc_b.jpg
The Capitoline Hill

The Capitoline Hill  เป็นเนินเขาที่มีขนาดเล็กที่สุดในบรรดาเนินเขาทั้งเจ็ดแห่งที่กรุงโรมตั้งขึ้น  นับตั้งแต่มีเมืองโบราณมันได้กลายเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมทางการเมืองและศาสนาของกรุงโรม  จุดเด่นที่สุดของเนินเขาแห่งนี้คือรายล้อมไปด้วยจตุรัสที่สำคัญของโรมที่ได่รับการออกแบบโดย Michaelangelo อย่าพลาดชมรูปปั้นที่อยู่บริเวณด้านนอกพิพิธภัณฑ์

Colosseum

Colosseum หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก โคลอสเซียม สนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ อายุกว่าสองพันปีที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม สามารถจุผู้ชมได้ประมาณ 50,000 คน ใช้นักโทษชาวยิวกว่าหมื่นคนมาสร้างเป็นเวลากว่า 10 ปี ว่ากันว่า ถ้าอยากรู้ว่าอาณาจักรโรมันโบราณยิ่งใหญ่เพียงใด ต้องมาชมที่สถานที่แห่งนี้ โคลอสเซียมนั้นเป็นสนามกีฬาที่เปิดให้ชาวโรมันได้เข้าชมสัตว์ป่าต่อสู้กัน รวมถึงคนต่อสู้กับสัตว์ป่า เช่น เปิดให้คนสู้กับสิงโต หรือหมูป่าดุร้าย เมื่อคนต่อสู้สัตว์ร้ายได้จะถือว่าคนนั้นเป็นผู้ชนะและจุดเด่นของโคลอสเซียมนั้น ยังมีไว้เพื่อนชมการแข่งขันของการต่อสู้ระหว่างคนกับคน หรือที่เรียกกันว่า กลาดิเอเตอร์

star5112 October 24, 2009 Retrieved 20-JUL-2018 FROM https://c1.staticflickr.com/3/2004/5760763672_1c09625d27_b.jpg
Roman Forum

Roman Forum หรือที่ชาวอิตาลีเรียกว่า Foro Romano ซากแห่งวัฒนธรรมและความเจริญในอดีต ตั้งอยู่ที่เนิน Palatine และ Capitoline ในบริเวณนี้มีซากโบราณสถานที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มากมายหลาย ที่โดดเด่นและยังคงสภาพเดิมอยู่ได้แก่ ตึก Comitium เทวสถาน Temple of Antoninus and Faustina และ Arch of Septimius Severus

Eren Tekin July 28, 2013 Retrieved 20-JUL-2018 FROM https://c2.staticflickr.com/6/5467/9385468185_c512f4156e_z.jpg
Trastevere

Trastevere ไปถึงโรม ถ้าไม่ได้ไปดินเนอร์สุดโรแมนซ์ที่ตราสเตเวเร ก็เหมือนกับไม่ได้ไป สถานที่สุดเก๋เลียบแม่น้ำไทเบอร์ มีทั้งผับ ร้านอาหาร ตลาดนัดเล็กๆ ชิกชิลล์ ให้เยี่ยมชม เมนูแนะนำ เช่น เมนูพิซซ่าและพาสต้าที่อร่อยล้ำ รวมทั้งไวน์ลิสต์ ที่ทำให้โลกนี้เปลี่ยนไปเป็นสีชมพู หรือจะจบที่ไอศกรีม Gelato ก็ได้อร่อย

กลับเข้าสู่โรงแรม Hotel Fellini (คืนละ € 53/2 = €26.5 ประมาณ 1033.34฿)

 


วันที่เก้า @โรม (วันศุกร์ 2 มี.ค. 2561)


เดินเล่นรอบๆโรงแรมก็ไปถึงบริเวณ St. Peter’s Square & St. Peter’s Basilica คนเยอะมากๆต้องต่อคิวเข้าไปเพื่อจะได้เข้าไปถ่ยรูปเล่น

St. Peter’s Square & St. Peter’s Basilica
St. Peter’s Square

St. Peter’s Square เป็นลานวงกลมขนาดใหญ่ที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบโรมันอันงดงามที่ตั้งอยู่ด้านหน้าสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของนครรัฐวาติกัน ในกรุงโรม อย่าง มหาวิหาร St. Peter’s Basilica ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย

St. Peter’s Basilica

St. Peter’s Basilica แต่ละวันนั้นมีนักท่องเที่ยวต้องต่อคิวเพื่อเข้าชมภายในมหาวิหารนักบุญเปโตรเป็นจำนวนมากในบริเวณของจัตุรัสแห่งนี้ ซึ่งความสวยงามและยิ่งใหญ่ของบริเวณโดยรอบของจัตุรัสแห่งนี้นั้นเองที่ช่วยให้การต่อคิวเข้าชมภายในมหาวิหารไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อ เพราะสามารถเที่ยวชมและถ่ายรูปสวยๆ รอบๆ จัตุรัสรอได้

N i c o l a October 7, 2013 Retrieved 20-JUL-2018 FROM https://c1.staticflickr.com/3/2859/10299397286_2070dae6e5_b.jpg
Vatican City
Eric C 25-FEB-2016 Retrieved 20-JUL-2018 FROM https://c2.staticflickr.com/2/1632/24888860779_14300d8a58_b.jpg / Dennis Jarvis October 22, 2010 Retrieved 20-JUL-2018 FROM https://c2.staticflickr.com/6/5140/5390638891_c67ec5f4e5_b.jpg / bengal*foam January 30, 2007 Retrieved 20-JUL-2018 FROM https://c1.staticflickr.com/1/188/374635866_faa7e1071e_o.jpg / Vicente Villamón April 26, 2010 Retrieved 20-JUL-2018 FROM https://c1.staticflickr.com/5/4111/5020222139_52e7de723e_b.jpg
The Vatican Museums

The Vatican Museums  เป็นพิพิธภัณฑ์ทางด้านศาสนาและศิลปะขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในรัฐวาติกัน แห่งกรุงโรม ถ้าโชคดีจะไม่ได้รอนาน 5555 เพราะคนเยอะมาก  ที่นี่คือสถานที่ที่เก็บรวบรวมผลงานทางศิลปะของศาสนจักรคาทอลิกที่มีอายุหลายร้อยปีไว้ให้ชม ไฮไลท์ของผลงานชิ้นเอกของศิลปินระดับโลกหลายท่าน เช่น Michelangelo และ Raphael แถมภายในยังได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามตั้งแต่พื้นยันเพดานกันเลยทีเดียว ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดของคนมาเที่ยวกรุงโรม โดยผลงานที่จัดแสดงภายในพิพิธภัณฑ์นั้นมีมากกว่า 70,000 ชิ้นเลยทีเดียว

Carl Larson May 13, 2015 Retrieved 20-JUL-2018 from https://c1.staticflickr.com/9/8871/18045636120_f7b39767ae_z.jpg
castel sant’angelo

Castel Sant’Angelo เป็นปราสาททรงกระบอกที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นปราสาทที่สูงที่สุดในกรุงโรม ตั้งอยู่ใน Parco Adriano ของกรุงโรมประเทศอิตาลี ที่ถูกสร้างขึ้นโดยจักรพรรดิแห่งโรมันเฮเดรียน  สำหรับใช้เป็นสุสานสำหรับเขาและครอบครัว ก่อนจะถูกเปลี่ยนมาเป็นป้อมปราการโดยพระสันตะปาปา กรมทหาร ที่คุมขังนักโทษ และสุดท้ายเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์เช่นในปัจจุบัน

Ponte Sant’Angelo สะพานเก่าแก่ของโรมันที่สร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 134 โดยจักรพรรดิเฮเดรียนแห่งโรมัน  เป็นสะพานข้ามแม่น้ำ Tiber ที่ใช้เชื่อมต่อจากปราสาทใจกลางเมืองไปยัง สุสานแห่งเฮเดรียน ปราสาทที่สูงตระหง่านที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นสุสานของจักรพรรดิเฮเดรียนและครอบครัว

  • จากนั้น ข้ามสะพานและเดินไปตามป้าย Piazza Navona and ThePantheon สามารถแวะไปเยี่ยมชมได้
  • Check-out ออกจากโรงแรม Fellini 10:00 น. เดินทางไปยัง Roma Termini
  • ถึง Roma Termini 11:10 น. ไปที่ Milano Centrale โดย Italo (€ 37.90 = 1477.87฿)

Italo คือรถไฟความเร็วสูงในอิตาลี เป็นรถไฟเอกชนเจ้าใหม่คล้ายๆ trenitalia แต่รถจะวิ่งเฉพาะเส้นเมืองใหญ่ คือ Milan, Venice, Bologna, Florence, Rome, Naples นั้นเองค่ะ

  • รถบัสจาก Milano Centrale ไป Milan Malpensa Airport (€ 8 = 311.95฿)
  • เดินทางกลับปารีส Milan Malpensa ไป Paris Charles de Gaulle
  • Flight EZY2791 ออก 21:15, ถึง 22:45

Budget Italy

Budget Italy

***Budget ที่แสดงให้ดูจะไม่รวมสถานที่ /พิพิธภัณฑ์ที่เข้าชมฟรี และอาหารนะคะ***

คลิ๊ก โหลดไฟล์ PDF เพื่อดู Budget ไป ITALY

ในโพสต์นี้เราได้ให้ trick การท่องเที่ยว Italy ในราคาถูกมาหลายอย่างเลยแต่ยังไม่หมดเท่านี้นะคะเพราะเรายังมี trick สุดท้ายที่ช่วยเราได้มากๆ คือการจองตั๋วเครื่องบิน รถไฟ ที่พักทั้งหมด ผ่าน บริษัทตระกูลเฉินค่ะ เพราะเค้าเป็นบริษัททัวร์ที่เป็นมืออาชีพและไว้ใจได้ เปิดมามากกว่า 20 ปีแล้ว ทำให้การจองทริปนี้เป็นเรื่องที่ง่ายมากๆ แค่ chat รายละเอียด ตั๋วเครื่องบิน ที่พัก รถไฟ บัตรเข้าต่างๆ ที่ LINE ของบริษัท (หรือถ้าเพื่อนๆอยากเที่ยวแบบเราก็ส่ง LINK โพสต์นี้ ไปให้ทางบริษัทได้เลยนะคะ) เค้าก็จองให้หมด แล้วเราก็จ่ายเงินครั้งเดียวจบ แทนที่จะต้องไปนั่ง Bookแยกเองเป็นวันๆแถมยังกลัวจองผิดอีก

 

Posted on

ไปดูดอกซากุระบานกันมั้ย กับสถานที่ชมดอกซากุระบานยอดนิยมในประเทศญี่ปุ่น

ClaDae April 9, 2015 Retrieved 15 JUN 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/1/714/23669442311_fabf94910e_b.jpg

ไปดูดอกซากุระบานกันมั้ย กับสถานที่ชมดอกซากุระบานยอดนิยมในประเทศญี่ปุ่น ดอกซากุระในประเทศญี่ปุ่นจะเริ่มบานในช่วงปลายเดือนมีนาคม ถึงราวกลางเดือนพฤษภาคมค่ะซึ่งดอกซากุระในแต่ละเมืองทั่วประเทศญี่ปุ่น จะเริ่มบานในช่วงเวลาที่ต่างกันไปค่ะและในแต่ละจุดที่ดอกซากุระบานนั้นจะมีเวลาให้ได้ชมกันราวๆ 1 – 2 สัปดาห์เท่านั้นค่ะดังนั้นหากใครต้องการไปเที่ยวชมดอกซากุระที่ประเทศญี่ปุ่นแล้วล่ะก็ เราขอแนะนำว่าควรจะต้องดูตารางการคาดการณ์ดอกซากุระให้เรียบร้อยการก่อนนะคะจะได้ไม่เสียเที่ยว เนื่องจากจุดชมดอกซากุระในญี่ปุ่นมีมากมายจนบางทีเอาจจะเลือกไม่ถูก เราจึงคัดสรรจุดชมดอกซากุระบานที่ได้รับความนิยม และ ได้รับการยอมรับว่าสวยงามมากจริงๆ มาให้เพื่อนๆได้เลือกชมกันเพื่อที่จะได้ท่องเที่ยวได้ง่ายขึ้น สนใไปเที่ยวญี่ปุ่นกับเรามั้ย เรามาดูกันว่าจุดชมดอกซากุระบานงามๆ มีที่ไหนบ้าง    

1. Chidorigafuchi Ryokudo

Angel Lahoz April 3, 2016 Retrieved 20 JUN 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/2/1592/26657385576_f018ed89a0_b.jpg
Chidorigafuchi Ryokudo

Chidorigafuchi Ryokudo เป็นทางเดินยาวราว 700 เมตร ซึ่งลัดเลาะคูเมืองของพระราชวังอิมพีเรียลที่บริเวณนี้ถือเป็นอีกจุดที่ได้รับความนิยมในการมาเดินเที่ยวชมดอกซากุระบานในแต่ละปีระหว่างปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน จะมีซากุระราว 250 ต้นบานสะพรั่งและจะมีการจัดงานเทศกาลชื่อว่า Chiyoda Sajura-Matsuri Festivalซึ่งในยามค่ำคืนจะมีการตกแต่งแสงไฟไว้อย่างสวยงามรวมถึงมาร่วมเก็บภาพดอกซากุระบานสะท้อนสายน้ำแบบงดงามร่วมกันและกิจกรรมยอดนิยมก็คือการเช่าเรือพายเล่นในคู

การเดินทาง นั่งรถไฟลงที่สถานี Kudanshita Station Exit 2 แล้วเดินต่อประมาณ 5 นาที หรือ จากสถานี Hanzomon Station Exit 5

ที่อยู่ ญี่ปุ่น 〒102-0074 Tokyo, 千代田区Kudanminami, 2 Chome−2−11番地先

2. Asukayama Park

かがみ~ March 31, 2016 Retrieved 09 JUN 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/2/1447/26594119405_edbf87c859_b.jpg
Asukayama Park

สวนสาธารณะ Asukayama Park เป็นจุดชมดอกซากุระที่สวยอีกแห่งของโตเกียวถึงแม้ความอลังการจะเทียบไม่ได้กับสวนอุเอะโนะ หรือ ชินจูกุแต่ที่สวนแห่งนี้ก็ไม่ได้วุ่นวายเหมือนสวนอื่นๆ ทำให้การเที่ยวชมเก็บภาพดอกซากุระเป็นไปอย่างสบายและสถานที่แห่งนี้เป็น 1 ใน 3 แห่งที่ท่านโชกุนที่ 8 ได้ปลูกต้นซากุระไว้ เมื่อปี พ.ศ. 2263 ซึ่งทำให้สวนสาธารณะแห่งนี้กลายเป็นสวนสาธารณะที่มีเรื่องราวที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก

การเดินทาง สู่สวนสาธารณะ Asukayama Park ให้ลงรถไฟที่สถานี Oji Station จะใกล้ที่สุด

ที่อยู่ ญี่ปุ่น 〒114-0002 Tokyo, 北区Oji, 1 Chome−1−3

ค้นหาโรงแรมที่พักที่พัก

3. Meguro River

Phakorn Sripayak April 12, 2017 Retrieved 09 JUN 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/3/2810/33376096764_1492284084_b.jpg
Meguro River 

ต้นซากุระกว่า 800 ต้น ที่ปลูกเรียงรายตามสองข้างของแม่น้ำ Meguro Riverจะผลิดอกเป็นสีชมพูสวยงามเป็นระยะทางหลายร้อยเมตรทำให้บรรยากาศบริเวณริมแม่น้ำแห่งนี้ช่างงดงามเหมาะกับการมาเดินเที่ยวชมความงามของดอกซากุระอีกแห่งในกรุงโตเกียว

การเดินทาง  มาที่แม่น้ำเมงูโระ (Meguro River) นั่งรถไฟไปลงที่สถานี NakaMeguro Station แล้วเดินมุ่งหน้าสู่แม่น้ำ Meguro River ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีเท่านั้น

ที่อยู่ 3 Chome-9 Higashishinagawa, Shinagawa-ku, Tōkyō-to 140-0002 ญี่ปุ่น

ค้นหาโรงแรมที่พักที่พัก 

 


 4. HIROSAKI CITY

Mark Liddell April 2010 Retrieved 13 JUN 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/5/4089/5105125894_83f3107f3b_b.jpg
HIROSAKI 

ปราสาทฮิโรซากิ ถูกยกให้เป็นจุดชมซากุระยอดนิยม1 ใน 5 สถานที่ชมซากุระของประเทศญี่ปุ่น ด้วยขนาดพื้นที่ๆกว้างถึง 492,000 ตารางเมตร และมีซากุระมากกว่า 2,500 ต้น อีกทั้งยังมีอุโมงค์ซากุระ และพื้นที่สำหรับผู้คนมาปิกนิกนั่งดูกลีบดอกซากุระร่วงลงคูน้ำรอบปราสาท หรือจะ ลงไปพายเรือเล่นก็ทำได้ ช่วงเย็นเป็นต้นไปก็จะมีการจัด Illuminations ชมซากุระกับแสงไฟสวยไปอีกแบบ งานจัดเป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ วันที่ 23 เมษายนไปจนถึง 5 พฤษภาคม

การเดินทาง: จากสถานี JR Hirosaki ขึ้นบัส Konan มาลงที่ Shiyakusho-mae-koen-iriguchi

ที่อยู่  เป็นเมืองในจังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

ค้นหาโรงแรมที่พักที่พัก 

 


5. Yoshino Park

keiji.kaji April 4, 2018 Retrieved 14 JUN 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/1/863/26385539357_613d3d31cb_b.jpg
Yoshino Park

 

สวนโยชิโนะ เป็นสวนขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเมืองคาโกชิมะ ซึ่งมีต้นซากุระอยู่มากกว่า 800 ต้น ทั่วทั้งสวน แต่จะหนาแน่นในบริเวณมุมทางทิศใต้ของสวน นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ให้นั่งชม และพักผ่อนหย่อนใจอีกด้วย

การเดินทาง: จากสถานีรถไฟ Kagoshima Chuo Station นั่งรถบัสไปประมาณ 25 นาที
ค่าใช้จ่าย: ฟรี

ที่อยู่ Japan, 〒892-0871 Kagoshima Prefecture, Kagoshima, Yoshinocho, 7955

ค้นหาโรงแรมที่พักที่พัก 

 


6. Mikamine Park

romalulla April 25, 2010 Retrieved 14 JUN 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/6/5109/5656409780_f38c161655_b.jpg
Mikamine Park

ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของใจกลางเมืองเซนได ภายในบริเวณสวนที่กว้างขวางแห่งนี้ เต็มไปด้วยต้นซากุระขนาดใหญ่กว่า 100 ต้น แผ่กิ่งก้านสาขาออกมามากมาย ทำให้ในฤดูใบไม้ผลิจะสามารถชมซากุระที่สวยงามใต้ต้นซากุระได้อย่างใกล้ชิด

การเดินทาง: จากสถานีรถไฟใต้ดิน Nagamachi Minami Subway Station เดินไปประมาณ 30 นาที  ในบริเวณรอบปราสาทโอซาก้าเต็มไปด้วยต้นซากุระกว่า 4,000 ต้น นอกจากนี้ยังมีสวนนิชิโนมารุ(Nishinomaru Park) ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของปราสาท เป็นพื้นที่สำหรับปิกนิก และชมแสงไฟของตัวปราสาทในตอนกลางคืนที่สวยงามอีกด้วย

ที่อยู่  ญี่ปุ่น 〒982-0826 Miyagi-ken, Sendai-shi, Taihaku-ku, Mikamine, 1丁目15

ค้นหาโรงแรมที่พักที่พัก

 


7. Osaka Castle

Agustin Rafael Reyes April 9, 2012 Retrieved 14 JUN 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/8/7124/7501177216_971b3a4901_b.jpg
Osaka Castle

ในบริเวณรอบปราสาทโอซาก้าเต็มไปด้วยต้นซากุระกว่า 4,000 ต้น นอกจากนี้ยังมีสวนนิชิโนมารุ(Nishinomaru Park) ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของปราสาท เป็นพื้นที่สำหรับปิกนิก และชมแสงไฟของตัวปราสาทในตอนกลางคืนที่สวยงามอีกด้วย

การเดินทาง: สามารถเลือกลงได้หลายสถานี แล้วเดินเล่นต่อจนถึงตัวปราสาท จะใช้เวลาเดินประมาณ 10-20 นาที สถานีที่ใกล้ที่สุดจะเป็นสถานี Morinomiya ได้ทั้งรถไฟใต้ดินและ JR

ที่อยู่ ญี่ปุ่น 〒540-0002 Ōsaka-fu, Ōsaka-shi, Chūō-ku, Ōsakajō, 1−1

ค้นหาโรงแรมที่พักที่พัก

 


 

สนใจแพ็คเก็ททัวร์——->คลิ๊ก

สนใจจองโรงแรมที่ดีที่สุด——->คลิ๊ก

สนใจจองตั๋วเครื่องบินในราคาถูก——->คลิ๊ก

จองตั๋วเครื่องบิน โรงแรมที่พัก และทริปท่องเที่ยว  HOT  คลิ๊ก

Posted on

ไอซ์แลนด์ ICELAND กับสถานที่ที่ต้องไปเที่ยว สักครั้งในชีวิต

wilsonbydesign May 23, 2017 Retrieved 18 JUN 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/5/4258/35007445490_aa1be21821_b.jpg

ไอซ์แลนด์  ICELAND กับสถานที่ที่ต้องไปเที่ยว สักครั้งในชีวิต ซึ่งนอกจากธรรมชาติที่งดงามอัศจรรย์และวิวทิวทัศน์ของท้องทุ่งสีเขียวสุดกว้างใหญ่แล้ว ที่นี่ยังเป็นสถานที่ชมแสงเหนือที่สวยงามแห่งหนึ่งของโลกอีกด้วย ที่นี่จึงเป็น Bucket List ของนักเดินทางทั่วโลก ไม่ว่าจะมาเที่ยวช่วงไหนก็สวย เพราะทุกฤดูที่นี่ ทุกที่ต่างสวยแปลกตา และมีเสน่ห์เฉพาะตัวค่ะ ทำให้นักท่องเที่ยวที่เคยมาที่นี่กลับมาเที่ยวอีก ครั้งแล้วครั้งเล่า จนไอซ์แลนด์มีฉายาให้ว่า ไอซ์แลนด์ มหัศจรรย์สวรรค์บนดิน!!! ประเทศไอซ์แลนด์ เป็นเกาะกลางทะเลในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ที่มีลักษณะทางภูมิประเทศที่โดดเด่น จึงมีธรรมชาติที่สวยงามแปลกตามากมาย หากคุณกำลังวางแผนจะไปเที่ยวไอซ์แลนด์ วันนี้เราได้รวบรวมที่เที่ยวที่ต้องไปเที่ยวสักครั้งในชีวิตไว้ที่นี่แล้ว จะมีที่ไหนบ้างตามไปดูเลยค่ะ


1. BLUE LAGOON HOT SPRINGS

Luís Henrique de Moraes Boucault November 10, 2014 Retrieved 18 JUN 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/6/5448/17710955611_0dba508cd6_b.jpg
BLUE LAGOON

เป็นน้ำพุร้อนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เพราะตั้งอยู่ในเขตที่มีการเคลื่อนตัวของหินหลอมละลายใต้ดินมากที่สุดในโลกเขตหนึ่งการเคลื่อนตัวนี้ทำให้น้ำในบ่อร้อนขึ้นและมีไอน้ำระเหยขึ้นมา โดยอุณหภูมิของน้ำจะอยู่ที่ประมาณ 40 องศาเซลเซียสอุดมสมบูรณ์ด้วยแร่ธาตุมากมาย และยังมีชื่อเสียงในการรักษาโรคสามารถช่วยรักษาโรคผิวหนังได้หลายชนิดเลยค่ะ ได้ทั้งผ่อนคลายและรักษาโรคไปด้วย

Tong Mao September 20, 2009 Retrieved 18 JUN 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/3/2531/3945295983_c39da55e96_b.jpg
HOT SPRINGS

เค้าว่ากันว่า พอกโคลน 10 นาที อ่อนเยาว์ขึ้น 10 ปีเลยนะคะหากเป็นคนที่ชื่นชอบการอาบน้ำแร่แช่น้ำร้อน ที่บลูลากูนจะกลายเป็นสวรรค์ของคุณได้ทำให้คุณได้พักผ่อนและรู้สึกผ่อนคลายยย สบายอารมณ์และมีการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกเอาไว้มากมาย เพื่อให้บริการแก่นักท่องเที่ยวโดยในช่วงฤดูหนาวจะเป็นช่วงเวลาที่บลูลากูนมีความสวยที่สุดค่ะถ้ามาเยือนไอซ์แลนด์แล้วได้มาสัมผัสที่แห่งนี้สักครั้ง ย่อมสร้างความประทับใจให้คุณอย่างไม่รู้ลืมแน่นอนค่า

ค้นหาโรงแรมที่พักที่พัก 

ค่าใช้จ่าย  ราคาหน้าหนาว 1 กันยายนถึง 31 พฤษภาคม Standard 40 euro ,Comfort 55 euro,Premium 70 euro ,Luxury 195 euroราคาหน้าร้อน  Standard 50 euro ,Comfort 65  euro,Premium 80 euro ,Luxury 195 euroหรือสามารถซื้อเพิ่มเป็นอย่างๆ เช่น ผ้าเช็ดตัว 5 euro ชุดว่ายน้ำ 5 euro ผ้าคลุมอาบน้ำ 10 euro รองเท้าแตะ 10 euroและให้สายรัดมือที่ใช้ในการสแกนเข้าและออก เปิดปิดตู้ล็อกเกอร์ และใช้ซื้อเครื่องดื่มต่างๆ ข้างในค่ะ

ที่อยู่  Nordurljosavegur 9, 240 Grindavík, ไอซ์แลนด์


2.  KIRKJUFELL

Andrew Rhodes September 22, 2013 Retrieved 18 JUN 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/4/3702/10000936444_afd59814ef_b.jpg
Kirkjufell

ภูเขาเคิร์คจูเฟล ( Kirkjufell ) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของแหลมสแนเฟลล์เนสอันเต็มไปด้วยกลาเซียร์และโตรกผาสูงชัน ภูเขาเคิร์คจูเฟล หนึ่งในสถานที่ถ่ายภาพทิวทัศน์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของไอซ์แลนด์ ในมุมมองยอดเขารูปกรวยคว่ำ มีน้ำตกและธารน้ำรายรอบ เป็นภาพสัญลักษณ์ของประเทศไอซ์แลนด์ก็ว่าได้ ช่วงกลางคืนมืดสนิท เหมาะสำหรับถ่ายภาพแสงเหนือ

ค้นหาโรงแรมที่พักที่พัก 

ที่อยู่  Snæfellsnesvegur, ไอซ์แลนด์ (อยู่ทางฝั่งตะวันตกของไอซ์แลนด์)


3. GODAFOSS WATERFALL

greenzowie April 29, 2013 Retrieved 18 JUN 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/9/8268/8702640992_97628f5a1a_b.jpg
GODAFOSS ฤดูหนาว

น้ำตกโกดาฟอสส์ หรือที่รู้จักในนาม น้ำตกของพระเจ้า “The Waterfalls of Gods” เป็นน้ำตกที่ใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 3 และเป็นหนึ่งในน้ำตกที่สวยงามที่สุดของไอซ์แลนด์ น้ำตกแห่งนี้เชื่อมมาจากแม่น้ำ Skjalfandafljót

Sapna Reddy Photography August 2, 2014 Retrieved 18 JUN 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/6/5565/14737052088_9738c58841_b.jpg
GODAFOSS ฤดูใบไม้ผลิ

ความงามของน้ำตกนั้นจะสวยแตกต่างกันในทุกฤดู โดยน้ำตกมีความสูงประมาณ 12 เมตร และมีความกว้างมากกว่า 30 เมตร น้ำตกถูกค้นพบโดยนักบุญชาวคริสต์ 1,000 ปีก่อนคริสตกาล ตั้งอยู่ไม่ไกลจากภูเขาไฟคลาฟฟา (Krafla Volcano)

ค้นหาโรงแรมที่พักที่พัก 

ที่อยู่  NE-2 640, 640 Grand Island, ไอซ์แลนด์


4. JOKULSARLON

Kim & Bing's Travel Photos May 25, 2017 Retrieved 18 JUN 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/1/824/40277788740_6608bab101_b.jpg
JOKULSARLON 1

ธารน้ำแข็งพันปีแห่งนี้ ที่ทุกคนต่างรู้จักกันเป็นอย่างดีว่าเป็นทะเลสาบธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ และลึกเป็นอันดับที่สองโดยอยู่ทางทิศใต้ตรงปลายทางของธารน้ำแข็งพันปี วัทนาโจกุลค่ะ อยู่ระหว่างอุทยานแห่งชาติสเกฟตาลเฟลล์ (Skeftalfell National Park) และเมืองฮอฟน์ (Hofn)

Manuel July 29, 2017 Retrieved 18 JUN 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/5/4267/35274843132_cb4cda3af7_b.jpg
JOKULSARLON 2

ทั้งยังจะได้ชมกับความสวยงามของทุ่งน้ำแข็งแห่งนี้ มีนก Skuas เป็นนกทะเลสีดำ และนกสีขาวตระกูลนกนางนวล ที่เรียกว่า big seagulls หากโชคดีคุณอาจจะได้เห็นสิงโตทะเลตัวอ้วนกลมมาดำผุดดำว่าย เล่นน้ำโชว์ความน่าเอ็นดูค่า 555 ท้องฟ้าปลอดโปร่งอากาศดี เหมาะกับกันพักผ่อนและถ่ายรูปเป็นที่ซู้ดดดด

ค้นหาโรงแรมที่พักที่พัก 

การเดินทาง  ถ้าเป็นรถยนต์ก็ไปตามทางหลวงเลยค่ะ โดยอยู่ไม่ไกลจากเส้นทางหลักที่เรียกว่า ถนนวงแหวน เป็นสายหลักที่วิ่งกันเป็นวงกลมเชื่อมต่อกันรอบเกาะไอซ์แลนด์ และยังมีรถบัสจากเรคยาวิกให้บริการด้วยน้า มาสุดที่เมืองฮอฟ์น์ เครื่องบินก็เรคยาวิกมาที่สนามบินเมืองฮอฟน์เช่นกันค่า

ที่อยู่  ไอซ์แลนด์


5. REYNISFJARA BLACK SAND BEACH

Giuseppe Milo February 16, 2018 Retrieved 18 JUN 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/5/4741/40301204721_059e4c01fd_b.jpg
Black Beach 1

หรือ หาดทรายดำแห่งไอซ์แลนด์ ซึ่งถูกจัดอันดับว่าเป็นหาดทรายสีดำที่สวยที่สุดในโลก!! อยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ทางใต้ของไอซ์แลนด์ค่ะ บนชายหาดเต็มไปด้วยกรวดสีดำสนิท เป็นตะกอนเม็ดทรายสีดำที่สะสมตัวกันบริเวณชายหาด เมื่อมองดูระยะไกลเหมือนดินสีดำ นับเป็นชายหาดที่แปลกตามากๆ  สวยไปอีกแบบเนอะ

threejumps February 25, 2016 Retrieved 18 JUN 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/2/1548/26069320776_797fee29e4_b.jpg
Black Beach 2

หาดทรายดำเกิดจากการสึกกร่อนของหินลาวา และแนวหินบะซอลต์ ที่ถูกพัดพาไปสะสมตัวบริเวณชายหาด โดยเม็ดทรายนี้มีความหนาแน่นและทนทานต่อการแตกสลายผุพังมากค่ะ

ค้นหาโรงแรมที่พักที่พัก 

ที่อยู่  ไอซ์แลนด์


6. Hallgrímskirkja

Lawrence L November 27, 2015 Retrieved 18 JUN 2018 FROM https://c2.staticflickr.com/2/1554/25222747381_495950126a_b.jpg
Hallgrímskirkja 1

เป็นสถาปัตยกรรมของสิ่งปลูกสร้างที่สูงที่สุด ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเรคยาวิกเมืองหลวงแห่งประเทศไอซ์แลนด์ เป็นดั่งสวนรวมใจของชาวคริสต์ เพราะที่นี่คือ “โบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา” (Hallgrímskirkja) โบสถ์แห่งศาสนาคริสต์นิยายลูเทอแรน เป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์และเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดเป็นอันดับ 6 ของไอซ์แลนด์

Mitchel May 25, 2014 Retrieved 18 JUN 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/3/2908/14528256115_45c73bab58_b.jpg
Hallgrímskirkja 2

ซึ่งมีความงามสง่ามากแต่การออกแบบนั้นได้แรงบันดาลใจมาจากการก่อตัวของหินบะซอลต์ที่พบทั่วไอซ์แลนด์เช่นน้ำตก Svartifoss นั่นเอง โดยจุดเด่นของโบสถ์ก็คือสถานที่ตั้งใจกลางเมือง แสดงถึงความเป็นแลนด์มาร์คสำคัญ ศูนย์รวมจิตใจของชาวคริสต์ลูเทอรัน และถ้านักท่องเที่ยวได้มองจากหน้าต่างชั้นบนสุดของโบสถ์จพบกับวิวเมืองอันสวยงาม

ค้นหาโรงแรมที่พักที่พัก 

ที่อยู่  Hallgrímstorg 101, 101 Reykjavík, ไอซ์แลนด์


7. GEYSIR

David de los Santos Gil September 17, 2017 Retrieved 18 JUN 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/5/4509/37437840650_594bf306a9_b.jpg
Geysir 1

ไอน้ำพุ่งขึ้นจากปล่องในพื้นดิน แหล่งประวัติศาสตร์แห่งนี้เป็นต้นกำเนิดของคำว่า “Geyser” (น้ำพุร้อน) โดยเป็นบ่อน้ำร้อนแห่งแรกๆ ในประเภทนี้ที่ชาวยุโรปรู้จัก เดินตามเส้นทางโกลเด้นเซอร์เคิล (Golden Circle) ไปทางตอนใต้ของไอซ์แลนด์ เพื่อมายังทำเลที่สวยงามเป็นธรรมชาติแห่งนี้

*SM* June 8, 2017 Retrieved 18 JUN 2018 FROM https://c1.staticflickr.com/1/910/41640045442_2959bcdea0_b.jpg
Geysir 2

น้ำพุร้อนที่นี่พวยพุ่งขึ้นสูงกว่า 180 ฟุต ทุกๆ 7 – 10 นาที พลังงานที่อยู่ใต้หินเปลือกโลก ขับเคลื่อนออกมาเป็นน้ำพุร้อน ช่วยให้อากาศอบอุ่นเย็นสบาย และรัฐบาลได้นำประโยชน์จากแหล่งความร้อนทางธรรมชาตินี้มาเป็นพลังงานไฟฟ้าส่งใช้ทั่วประเทศ

ค้นหาโรงแรมที่พักที่พัก 

ที่อยู่  ไอซ์แลนด์


สนใจแพ็คเก็ททัวร์ต่าง——->คลิ๊ก

สนใจจองโรงแรมที่ดีที่สุด——->คลิ๊ก

สนใจจองตั๋วเครื่องบินในราคาถูก——->คลิ๊ก

จองตั๋วเครื่องบิน โรงแรมที่พัก และทริปท่องเที่ยว  HOT  คลิ๊ก

Posted on

โปรโมชั่นสายการบินศรีลังกา

www.srilankan.com Retrived 11Jul2018 From https://www.srilankan.com/images2/main_img_4.jpg

www.srilankan.com Retrieved 10/7/18 FROM https://www.srilankan.com/images/ul_logo_sl.png

แนะนำโปรโมชั่นของสายการบินศรีลังกาแอร์ไลน์ ประจำเดือน กรกฎาคม-สิงหาคม 2561 สำหรับเส้นทางมัลดีฟส์ ราคาที่ดีที่สุดในรอบปี ซึ่งราคาเริ่มต้นในชั้นประหยัด เริ่มต้นที่ 6,580 บาท สำหรับใครที่กำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวในช่วง Summer ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่แนะนำ และราคาสบายกระเป๋า สามารถทำการจอง โดยคลิ๊กจองรายละเอียดด่านล่าง

2018 Pixabay Retrived 11Jul2018 From https://cdn.pixabay.com/photo/2015/03/09/18/34/maldives-666122_960_720.jpg

PROMOTION

เส้นทางมัลดีฟส์

ราคาเริ่มต้น 6,580 บาท

สำรองที่นั่งคลิกราคา

เริ่มจองตั้งแต่วันนี้ – 31สิงหาคม 2561
เริ่มออกเดินทางตั้งแต่วันนี้ – 31ตุลาคม 2561

 


เช็คเที่ยวบิน

 

หมายเหตุ : ราคาบัตรโดยสารข้างต้นยังไม่รวมค่าภาษีสนามบิน ทั้งนี้ที่นั่งมีจำนวนจำกัดในแต่ละเที่ยวบิน บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์การเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดเงื่อนไขใดๆ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า


เงื่อนไขและข้อกำหนดของตั๋วเครื่องบิน

  • ราคาข้างต้นเป็นราคาเริ่มต้นสำหรับตั๋วไป-กลับชั้นประหยัด, ชั้นธุรกิจ ออกเดินทางโดยสายการบิน Srilankan Airline เท่านั้น
  • กรุณาจองล่วงหน้าอย่างน้อย 2วัน
  • ราคานี้ยังไม่รวมภาษี ค่าภาษีคำนวณจากภาษีสนามบินและน้ำมันเชื้อเพลิงราคาอาจเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่ณวันที่สำรองและเส้นทางที่เดินทาง
  • โปรโมชั่นสำหรับสำรองที่นั่งและออกตั๋วเครื่องบินตามระยะเวลาที่แจ้งเท่านั้น
  • กรณีออกบัตรโดยสารแล้วต้องการเปลี่ยนวันเดินทางกรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อสอบถามอัตราค่าธรรมเนียมและเสียค่าส่วนต่างตั๋ว (หากมี)
  • ตัวเครื่องบินหากไม่ได้ใช้หรือต้องการยกเลิกต้องแจ้งยกเลิกก่อนการเดินทางไม่ต่ำกว่า 24 ชั่วโมง ก่อนเที่ยวบินขาไปหรือส่งอีเมล์เพื่อขอยกเลิกกับแผนกตั๋วเครื่องบินเท่านั้น
  • ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงใดใดที่นอกเหนือจากเงินขายที่ทางสายการบินกำหนดไว้  

ติดต่อทีมงาน

โทร.  0 2274 4216
มือถือ 08 1845 3303, 08 1842 3303
มือถือ 08 4676 3332, 08 4676 3334

สำนักงานเปิดทำการ
จันทร์-ศุกร์ 08:30-17:30
เสาร์ 10:00-19:00

 

กรุณาคลิ๊ก BOOKING REQUEST และระบุวันที่พร้อมสายการบินท่านต้องการจอง