
จันทบุรี เป็นจังหวัดทางชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกของประเทศไทย สภาพภูมิประเทศประกอบไปด้วยป่าไม้ ภูเขา ที่ราบสูง ที่ราบลุ่มน้ำ และที่ราบชายฝั่งทะเล ติดกับประเทศกัมพูชา อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 238 กิโลเมตร เดินทางสะดวกใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง เป็นจังหวัดที่มีความอุดมสมบูรณ์ ของทรัพยากรธรรมชาติของป่าไม้ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำ และมีสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต และยังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว จังหวัดจันทบุรีมีอุณหภูมิเฉลี่ย 23–31 องศาเซลเซียสในแต่ละปี โดยที่อุณหภูมิในแต่ละฤดูของจังหวัดจะไม่มีความแตกต่างกันมากนักเนื่องจากอยู่ใกล้กับทะเล เมื่อคิดถึงจังหวัดจันทบุรีมีหลายสถานที่ที่ให้นึกถึง ไม่ว่าจะเป็นทะเล สวนผลไม้ วิวสวยๆ แต่วันนี้เราพาสายบุญมาทำความรู้จักสถานที่ศักดิ์สิทธ์ที่มีอยู่มากมายใน “จันทบุรี”
สถานที่ท่องเที่ยวที่แนะนำ
ศาลหลักเมืองจันทบุรี เพื่อเป็นศิริมงคลที่แรกที่ต้องแวะสักการะศาลหลักเมืองจันทบุรี ตั้งอยู่ที่ถนนท่าหลวง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี โดยอยู่ด้านหน้าค่ายตากสิน ศาลหลักเมืองแห่งนี้ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อใด และใครเป็นผู้สร้าง มีเพียงการสันนิษฐานว่า สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงสร้างขึ้นเมื่อครั้งเสด็จเข้าเมืองจันทบุรี เพื่อใช้เป็นที่รวบรวมไพร่พลและเสบียงอาหารก่อนยกทัพไปกอบกู้กรุงศรีอยุธยา

ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ตั้งอยู่บนถนนท่าหลวง บริเวณหน้าค่ายตากสิน เป็นอาคารรูปทรงเก้าเหลี่ยม หลังคาเป็นรูปพระมาลาหรือหมวกยอดแหลม ภายในประดิษฐานพระบรมรูปของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งในแต่ละวันจะมีประชาชนมาสักการะบูชาเป็นจำนวนมาก และในวันที่ 28 ธันวาคมของทุกปีซึ่งเป็นวันคล้ายวันเสด็จขึ้นครองราชย์ของพระองค์ จะจัดให้มีการทำบุญตักบาตรและถวายเครื่องราชสักการะ เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงกอบกู้กรุงศรีอยุธยา


เขาคิชฌกูฏ เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวสายบุญ ซึ่งจะมีงานนมัสการรอยพระบาทเขาคิชฌกูฏ จัดขึ้นเป็นประจำทุกๆ ปีในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน แต่ละปีจะมีพุทธศาสนิกชนจำนวนมากเดินทางมาเพื่อแสวงบุญด้วยความศรัทธาทั้งกลางวัน และกลางคืน

โบสถ์เซรามิกสีน้ำเงิน วัดปากน้ำแขมหนู ตั้งอยู่บริเวณสะพานปากน้ำแขมหนู ริมชายฝั่งปากอ่าว เมื่อลงจากสะพาน แล้วเลี้ยวซ้ายก็จะถึง วัดปากน้ำแขมหนู สำหรับความเป็นมาของพระโบสถ์หลังนี้ เนื่องจากพระโบสถ์หลังเก่าเริ่มชำรุดทรุดโทรมมากขึ้น เพราะวัดอยู่ติดกับทะเลทำให้โครงสร้างผุกร่อนลุกลามไปจนถึงหลังคา จึงได้รื้อโบสถ์หลังเก่า และก่อสร้างโบสถ์หลังใหม่ขึ้น พร้อมหาวิธีที่จะป้องกันไม่ให้โบสถ์หลังใหม่เกิดความชำรุดเสื่อมโทรมเร็ว จึงมีแนวความคิดที่จะใช้เซรามิกมาเคลือบชั้นปูนพระอุโบสถเพื่อป้องกันน้ำเค็ม และใช้ลวดลายสีน้ำเงินตัดกับสีขาว ตามแบบสีของเครื่องลายครามในสมัยโบราณที่นิยมใช้เพียง 2 สีนี้เท่านั้น เมื่อลองมาใช้ก็พบว่ามีความสวยงาม โดดเด่น

อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล เป็นอาสนวิหารประจำมิสซังโรมันคาทอลิกจันทบุรี ตั้งอยู่บริเวณริมคลองจันทบุรี ตรงข้ามชุมชนเก่าแก่จันทบูร เป็นชุมชนเก่าแก่ของชาวจีนและญวน หากใครมาเยือนจันทบุรีแล้วไม่มา ถือว่าพลาด บรรยากาศคลาสสิก น่ามาถ่ายรูปมากๆ


วัดตะปอนน้อย มีพระอุโบสถเก่า สวยงาม อายุหลายร้อยปี ด้านในพระอุโบสถมีภาพจิตรกรรมฝาผนังซึ่งเขียนขึ้นหลังในสมัยอยุธยาตอนปลายต่อสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น แต่ยีงเขียนได้ไม่สมบูรณ์ องค์พระประธานในโบสถ์เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยศีลปะในสมัยอยุธยาตอนต้นลักษณะพระอุโบสถ มีความกว้าง 9 เมตร ยาว 17 เมตร รูปทรงเก๋งจีน มีเสานางรองรอบระเบียง 17 ต้น มีอายุกว่า 400 ปี


วัดเขาชวัง ตั้งอยู่ที่ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี อีกหนึ่งวัดในจังหวัดจันทบุรี ที่วัดแห่งนี้มีจุดเด่นที่แตกต่างจากที่อื่นนั่นก็คือ โบสถ์ไม้แกะสลักทั้งภายนอกและภายใน ที่งดงามอย่างมาก โดยตัวโบสถ์จะแกะสลักเรื่องราวพุทธประวัติ วรรณคดีพระเวสสันดรชาดก และวิถีชีวิตของชาวบ้านในสมัยโบราณ ถือเป็นวัดที่งดงามท่ามกลางธรรมชาติ


วัดเขาสุกิม ตั้งอยู่ที่ตำบลเขาพลอยศรี อำเภอท่าใหม่ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งจังหวัดจันทบุรี ตั้งอยู่บนเขาสูงมีพระพุทธรูปปางต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้มากราบไหว้ขอพร ภายในวัดมีพิพิธภัณฑ์จัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งเกจิอาจารย์ชื่อดังที่ดูงดงามและเหมือนจริง มีพิพิธภัณฑ์วัดเขาสุกิม แหล่งเก็บรวบรวมโบราณวัตถุจำนวนมาก เช่น พระพุทธรูปปางต่างๆ กระเบื้องจีนขนาดเล็กและใหญ่ ฆ้อง หม้อ ไห มีด ดาบ เครื่องประดับสำริด ฯลฯ

วัดมังกรบุปผาราม ตั้งอยู่ที่ตำบลพลิ้ว อำเภอแหลมสิงห์ วัดจีนขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดจันทบุรี ซึ่งถือว่าเป็นตำแหน่งของหางมังกรจากวัดมังกรกมลาวาสในกรุงเทพฯ และวัดจีนประชาสโมสรในฉะเชิงเทรา มีชื่อเรียกในภาษาจีนว่าวัดเล่งฮั่วยี่ จัดอยู่ในพระพุทธศาสนาแบบมหายานฝ่ายจีนนิกาย สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2520 ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อต้องการสร้างวัดคู่บ้านคู่เมืองแก่ชาวไทยเชื้อสายจีน

สถูปพระนางเรือล่ม อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอเมือง อำเภอแหลมสิงห์ อำเภอขลุง และอำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี ประกอบ ด้วยป่าที่สมบูรณ์ เทือกเขาสูงสลับซับซ้อนเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารหลายสาย และมีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติ คือ น้ำตกพลิ้วที่สวยงาม มีน้ำตกตลอดปี โดยเฉพาะปลาพลวงหิน จึงเป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว และยังเป็นที่ประดิษฐานสถูปพระนางเรือล่ม สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 (พ.ศ. 2424) เพื่อเป็นที่ระลึกแก่สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี ภายในสภูปพระนางเรือล่มบรรจุพระอังคารของพระนางเจ้าฯ ด้วย เนื่องจากพระองค์ท่านเคยเสด็จประพาส น้ำตกพลิ้ว เมื่อ พ.ศ. 2417 และทรงโสมนัส ชื่นชม ความงามธรรมชาติของน้ำตกพลิ้วยิ่งนัก


เจดีย์กลางน้ำบ้านหัวแหลม ตั้งอยู่ในเส้นทางเดียวกับจุดชมวิวเนินนางพญา ตั้งอยู่ใกล้กับท่าเทียบเรือประมงบ้านหัวแหลม อำเภอนายายอาม ความโดดเด่นที่น่าสนใจของ คือ เจดีย์สีขาวเก่าแก่ที่ตั้งอยู่บนโขดหิน กลางน้ำทะเล ชาวบ้านเรียกกันว่า “เจดีย์บ้านหัวแหลม” เป็นเจดีย์ที่มีอายุกว่า 200 ปี เชื่อกันว่าสร้างไว้เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวประมง โดยมีสะพานไม้พาดผ่านโขดหินน้อยใหญ่ยื่นยาวออกไปในทะเลระยะทางได้ประมาณ 50 เมตร เพื่อเป็นทางเดินไปสักการะ เจดีย์บ้านหัวแหลม
ก่อนเดินทางกลับ แวะชมและถ่ายรูปจุดชมวิวเนินพญา เป็นจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงของจันทบุรี เนื่องจากว่าเป็นถนนเลียบชายหาดของจังหวัดจันทบุรีผ่านหาดคุ้งวิมาน อ่าวคุ้งกระเบน หาดแหลมสิงห์ ทั้งสองฝั่งถนน ติดทะเล และภูเขา ตัวถนนโค้งไปตามภูเขา และทะเล เป็นถนนที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุด ในภาคตะวันออก ความยามของถนนเฉลิมบูรพาชลทิต มีระยะทางทั้งหมด 111 กิโลเมตร เหมาะกับการขับรถเล่น ชมวิวแล้ว ยังเหมาะที่จะมาปั่นจักรยานชมวิว มีเลนของจักรยานโดยเฉพาะที่บริเวณไหล่ทาง

และหากมีโอกาสเดินทางท่องเที่ยวจันทบุรีอีกหนึ่งช่วงเวลาที่ไม่ควรพลาด คือ เทศกาลเที่ยวสวนผลไม้จันทบุรี อีกหนึ่งของดีขึ้นชื่อ โดยจะคึกคักในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกรกฎาคม ของทุกปี นักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวชมและชิมผลไม้ที่มีมากมายทั้ง ทุเรียน เงาะ ลองกอง มังคุด สละ ที่มีให้ชิมสดๆกันถึงสวน
จองตั๋วทุกเส้นทางทั่วโลกเช็คตั๋วเครื่องบินออนไลน์คลิกที่นี่
ติดต่อทีมงาน ช่องทางไลน์ คลิก