Posted on

ลาว

ท่องเที่ยวลาว กับ 19 สถานที่ใน เมือง เช็คอินที่ไม่ควรพลาด

เดินทางได้ง่าย สะดวกสบาย ชมธรรมชาติที่สวยงาม ศิลปะ วัฒนธรรมต่างๆ

เดินทางตามแนวรถไฟฟ้าความเร็วสูง ลาวจีน

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวลาว 19 สถานที่ใน3เมือง เส้นทางรถไฟฟ้าความเร็วสูง ลาว-จีน
โดยเส้นทางรถไฟสายลาว-จีน เป็นส่วนหนึ่งของโครงการเชื่อมต่อสำคัญภายใต้แผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง(Belt and Road Initiative : BRI) นำเสนอโดยจีน ที่มุ่งเชื่อมโยงกับกว่า 70 ประเทศทั่วเอเชีย แอฟริกา และยุโรป ผ่านการก่อสร้างถนน ทางรถไฟ ท่าเรือ และสนามบิน ผนวกกับยุทธศาสตร์ของลาวที่ต้องการเปลี่ยนตนเองจากประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล
ให้กลายเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อทางบก ซึ่งเริ่มต้นก่อสร้างเดือนธันวาคม 2015ใช้เวลาในการก่อสร้างนานกว่า 5 ปี เชื่อมต่อระหว่างกรุงเวียงจันทน์ ประเทศลาว กับนครคุนหมิง เมืองเอกของมณฑลยูนนาน ประเทศจีน ได้เปิดอย่างเป็นทางการไปแล้วในวันชาติลาวที่ผ่านมา สายท่องเที่ยวทั้งหลายคงอยากจะรู้แล้วว่าเส้นทางรถไฟลาว-จีนสายนี้จะผ่านเมืองอะไร และมีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรที่น่าสนใจบ้าง เรารวบรวมมาไว้ให้ในบล็อคนี้แล้ว มาชมกันเลยค่า

(ข้อควรรู้ก่อนไป เที่ยวลาว)

ประเทศไทยเราสามารถเดินทางเข้า สปป.ลาว ได้ที่ด่านพรมแดน 5 จังหวัด ดังนี้

1. จังหวัดเชียงราย (เชียงของ – ห้วยทราย)

2. จังหวัดหนองคาย (สะพานมิตรภาพไทย-ลาว – นครหลวงเวียงจันทน์)

3. จังหวัดนครพนม – ท่าแขก

4. จังหวัดมุกดาหาร – สะหวันนะเขต

5. จังหวัดอุบลราชธานี (ด่านช่องเม็ก – วังเต่า)

(เดินทางไปประเทศลาวต้องใช้อะไรบ้าง)

1. PASSPORT มีอายุ 6 เดือนขึ้นไป
หนังสือเดินทาง (Passport) สามารถเดินทางเข้า- ออก สปป.ลาว ได้โดยไม่ต้องมีวีซ่า
และอยู่ในสปป.ลาว ได้ 30 วัน

2. เงิน (LAK) เงินลาวเรียกเป็นกีบ 10,000 กีบ = 26 บาท ไทย (สามารถแลกเงินได้ที่สนามบิน)

3. Sim card หาซื้อได้ สนามบิน มีหลายราคา 200-300 บาท
ได้เน็ท 3G ไม่จำกัด 4G วันละ 4GB ใช้ได้ 30 วัน

4. กล้องถ่ายรูป ไว้เก็บภาพสถานที่ บรรยากาศที่สวมงาม

ท่องเที่ยวลาว กับ 19 สถานที่ใน เมือง

เมือง หลวงพระบาง

เมืองมรดกโลกที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศลาว ห่างจากตัวเมืองเวียงจันทน์ประมาณ 310 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง ชมศิลปวัฒนธรรมและธรรมชาติ รายล้อมไปด้วยวัดที่มีสถาปัตยกรรมอันงดงาม มีแม่น้ำโขงและแม่น้ำคานไหลผ่าน อีกทั้งยังล้อมไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์หลวงพระบางเป็นเมืองเอกของแขวงหลวงพระบาง ประเทศลาว อยู่ทางภาคเหนือของประเทศ ตัวเมืองตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงและแม่น้ำคาน ซึ่งไหลมาบรรจบกันบริเวณนั้นเรียกว่า ปากคาน เป็นเมืองที่องค์การยูเนสโกได้ยกย่องให้เป็นมรดกโลกด้วย

สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำคือ

https://thailandtourismdirectory.go.th/assets/upload/info/attraction/801/20171023d671b3cf8b4fe2b811d36c09662a35af010313.jpg
Photo by thailandtourismdirectory (27MAY2022)

1. หอพระบาง (Haw Pha Bang)
หอพระบาง อยู่ในบริเวณของ พระราชวังหลวงพระบาง (Royal Palace)
ในเมืองหลวงพระบาง ซึ่งปัจจุบันนี้ พระราชวังหลวงพระบาง เปิดเป็น  พิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง (Museum Luang Prabang) และสามารถให้นักท่องเที่ยวเข้าชม  ภายในหอพระบางนี้เอง ประดิษฐาน พระบาง พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่ชาวลาวสักการะบูชา พระบาง นั้นเป็นพระพุทธรูปปางประทับยืนปางประทานอภัยทั้งสองพระหัตถ์ หรือปางห้ามสมุทร เป็นศิลปะสมัยขอมหลังบายน งดงาม และในหอพระแห่งนี้ ยังมี พระพุทธนาคปรก สลักศิลาอีก 4 องค์และยังมีกลองโบราณอยู่ด้วย

https://www.tourismlaos.org/wp-content/uploads/2021/12/xieng-thong-4-1030x628.jpg
Photo by tourismlaos (27MAY2022)

2. วัดเชียงทอง (Wat Xiengthong)
วัดเชียงทอง เป็นวัดเก่าแก่อีกแห่งที่ หลวงพระบาง  สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2101-2103 ในสมัยของ พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ตั้งอยู่ใกล้กับแม่น้ำโขง เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมแบบล้านช้างที่สวยงามมากจนได้รับการยกย่องจากนักโบราณคดีว่าเป็นดั่ง อัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมลาว นอกจากความงดงามของวัดแล้ว สิ่งที่ห้ามพลาดมาชมเลยก็คือ พระม่าน ซึ่งประดิษฐานอยู่ที่ หอพระม่าน วิหารด้านหลังพระอุโบสถ ชาวลาวมาสักการะพระม่านเพื่อความเป็นสิริมงคลตามความเชื่ออีกด้วย ซึ่งพระม่านนั้นถือว่า เป็น 1 ใน 3 พระพุทธรูปสำคัญของเมืองหลวงพระบาง

https://www.tourismlaos.org/wp-content/uploads/2021/12/Screen-Shot-2021-12-21-at-10.27.49.png
Photo by tourismlaos (27MAY2022)

3. น้ำตกตาดกวางสี (Kuang Si Waterfall)
น้ำตกตาดกวางสี หรือ น้ำตกกวางสี ได้ชื่อว่าเป็น น้ำตกที่สวยที่สุดของหลวงพระบาง ตั้งอยู่ห่างจากเมืองหลวงพระบางประมาณ 32 กิโลเมตร ที่นี่เป็นน้ำตกหินปูน น้ำในน้ำตกจึงมีสีเขียวมรกตสวยงาม และมีจำนวนชั้นทั้งหมด 4 ชั้นด้วยกัน มีความสูงโดยรวมประมาณ 75 เมตร ทำให้เป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ บริเวณรอบๆ น้ำตกยังมีสภาพป่าที่ร่มรื่น มีสะพาน และเส้นทางเดินชมรอบๆ น้ำตก และสามารถเลาะข้างน้ำตกเพื่อเดิมไปชมน้ำตกที่ชั้นบน นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำบริเวณลำธารได้อีกด้วย เป็นอีกหนึ่งที่ที่ชิลมากทีเดียวสำหรับคนรักธรรมชาติ

https://www.tourismlaos.org/wp-content/uploads/2019/12/tad-sae-falls.jpg
Photo by tourismlaos (27MAY2022)

4.น้ำตกตาดแส้ (Tad Sae Waterfall)
สถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่นิยมไปมากที่สุดในช่วงฤดูฝน โดยเฉพาะช่วงเดือนกรกฏาคมถึงธันวาคมซึ่งน้ำจะเยอะมากเป็นพิเศษและยังเป็นหนึ่งในน้ำตกลาวที่สวยที่สุด นักท่องเที่ยวมีโอกาสได้เห็นความมหัศจรรย์ต่างๆของธรรมชาติด้วยน้ำตกที่มีขนาดกลางสวยงามและการก่อตัวของหินปูนที่สง่างาม น้ำใสสีเขียวมรกตไหลลดหลั่นเป็นขั้นบันไดลงสู่แอ่งเบื้องล่างเสมือนเป็นสระว่ายน้ำตามธรรมชาติท่ามกลางป่าเขตร้อนอันเขียวชอุ่มและเหมาะแก่การลงเล่นน้ำเป็นอย่างยิ่ง ความพิเศษของที่นี่อยู่ที่ต้องล่องเรือหางยาวไปตามแม่น้ำคานและชมวิวทิวทัศน์ตามริมฝั่งแม่น้ำนอกจากนั้นบริเวณรอบนอกของตัวน้ำตกยังมีสถานที่โชว์การแสดงของช้างอีกด้วย

https://www.tourismlaos.org/wp-content/uploads/2021/12/phousi-2-2-1030x579.jpg
Photo by tourismlaos (27MAY2022)

5. พระธาตุพูสี (Mount Phousi)
แลนมาร์คใจกลางเมืองหลวงพระบาง จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจากที่ พระธาตุพูสี ซึ่งคำว่าพูสี แปลว่าฤาษีเชื่อกันว่าเป็นภูเขาของพระฤาษี คนส่วนใหญ่มักจะมาขอพรกับพระฤาษีที่เล่ากันว่า ศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก จุดเด่นของพระธาตุพูสี คือ องค์พระธาตุที่มีรูปทรงเป็นดอกบัวสี่ทองอร่าม ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยม ยอดประดับด้วยเศวตฉัตรทองสำริดเจ็ดชั้นนอกจากองค์พระธาตุแล้วก็ยังมีพระพุทธรูปและรอพระพุทธบาทประดิษฐานอยู่ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้สามารถเพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์ที่น่าอัศจรรย์ได้แบบ360 องศา ที่งดงามทั่วเมือง มองเห็นสายน้ำโขงและบรรยากาศดีควบคู่กับประวัติศาสตร์อันงดงาม  นักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นบันได 328 ขั้นตลอดทางร่มรื่นไปด้วยต้นจำปา (ดอกไม้ประจำชาติลาว) เพื่อไปสักการะได้ตลอดทั้งปี อีกทั้งยังมีประเพณีในสมัยก่อนคือการย่ำกลองที่เป็นการตีกลองบอกเวลาให้กับชาวเมืองหลวงพระบางซึ่งประเพณีนี้มีการบอกเล่าความเป็นมาต่อๆกันว่า เป็นการตีเพื่อให้ประชาชนระลึกถึงธรรมะ ละความชั่ว ทำแต่ความดีและจำได้ว่าวันนี้เป็นวันพระ ช่วงเวลาไฮไลท์ของพระธาตุพูสีเป็นช่วงยามเย็น นอกจากจะได้ชมวิวพระอาทิตย์ตกดินแล้ว แสงอาทิตย์ในยามเย็นจะส่องลงที่องค์พระธาตุสีทอง เกิดเป็นแสงเงากระทบเสริมความงดงามให้กับองค์พระธาตุได้เป็นอย่างดี  ปัจจุบันพระธาตุพูสีก็ยังคงเป็นจุดศูนย์รวมทางด้านจิตใจของชาวหลวงพระบางอยู่ จนมีคำขวัญว่า ถ้าใครมาหลวงพระบางแล้วไม่ได้ขึ้นไปไหว้พระธาตุพูสี ถือว่าไม่ได้มาหลวงพระบาง

https://tourismluangprabang.org/wp-content/uploads/2016/09/National-Museum.jpg
Photo by tourismluangprabang (27MAY2022)

6. พระราชวังหลวงพระบาง (Royal Palace Museum, Luang Prabang)
พระราชวังหลวงพระบาง เป็นพระราชวังเก่าของเจ้ามหาชีวิตสายหลวงพระบาง ที่นี่มีสถาปัตยกรรมที่งดงามมาก และตัวอาคารยังมีการผสมผสานของสถาปัตยกรรมแบบยุโรปอีกด้วย ปัจจุบันที่นี่ได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่สำคัญ และเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยวชมพระราชวังหลวงพระบาง ที่เที่ยวหลวงพระบาง ลาว ภายในมีทั้งห้องบรรทม ห้องทรงงาน ห้องพระโรงใหญ่ ห้องพิธีการ ห้องรับแขก และอื่นๆ รวมไปถึงข้าวของเครื่องใช้ ฉลองพระองค์ของกษัตริย์ พระราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ของลาวในสมัยเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ จนถึงสมัยเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนา พระมหากษัตริย์พระองค์สุดท้ายของประเทศลาวนอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นที่ประดิษฐานของ พระบาง พระพุทธรูปอันเก่าแก่และคู่บ้านคู่เมืองของเมืองหลวงพระบางอีกด้วย
**การแต่งกายในการเข้าชม : ต้องแต่งกายสุภาพ ห้ามใส่เสื้อแขนกุด กระโปรง หรือ กางกงขาสั้นอย่างเด็ดขาด

https://www.tourismlaos.org/wp-content/uploads/2019/12/pak-ou-cave.jpg
Photo by tourismlaos (27MAY2022)

7. ถ้ำปากอู (Pak Ou Caves)
ถ้ำติ่ง หรือ ถ้ำปากอู เป็นถ้ำที่ตั้งอยู่กลางภูเขาลูกใหญ่บนริมแม่น้ำโขง วิธีการเดินทางคือ ต้องนั่งเรือไปเที่ยวชม ซึ่งสามารถขึ้นเรือได้ที่ท่าน้ำวัดเชียงทอง เป็นเรือเช่าเหมา ซึ่งจะได้ชมทิวทัศน์สองฝากฝั่งแม่น้ำโขงไปด้วยในตัวค่ะ ภายในถ้ำจะมีหินงอกหินย้อยเล็กน้อย มีพระพุทธรูปจำนวนมากมายหลายขนาด ซึ่งในสมัยโบราณที่นี่เป็นที่สักการะบวงสรวงดวงวิญญาณ ผีฟ้า ผีแถน เทวดาผาติ่ง แสดงถึงยุคแห่งการปฏิวัติความเชื่อของชาวลาวในอดีตที่เคยนับถือผี มาสู่ยุคที่ พระเจ้าโพธิสารราช ทรงเลื่อมใสในพุทธศาสนา และนำศาสนาพุทธเข้ามาในแผ่นดินลาว และทรงใช้ถ้ำติ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางพุทธศาสนา ที่นี่จึงมีการค้นพบพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18-19 กว่า 2,500 องค์ และส่วนใหญ่ทำขึ้นจากไม้

https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%A5#/media/%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%A5%E0%B9%8C:4.4.21.LPVatVisoun.jpg
Photo wikipedia (31MAY2022)

8.วัดวิชุนราช (Visounnarath Temple)
วัดวิชุนหรือวัดวิซุน เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองหลวงพระบาง สร้างขึ้นเมื่อ  พ.ศ. 2058 ในรัชสมัยพระเจ้าวิชุลราชแห่งอาณาจักรล้านช้าง มีการบูรณปฏิสังขรณ์ใหม่ ได้อัญเชิญพระบางมาประดิษฐานในวัดแห่งนี้ เอกลักษณ์ของวัดนี้เห็นได้จากประตูไม้ที่มีการแกะสลักอย่างสวยงาม และมีสถาปัตยกรรมแบบขอมที่ได้แบบมาจากปราสาทวัดภู  ด้านในวัดมีพระพุทธรูปเก่าแก่ และศิลาจารึกรูปแบบต่างๆ และภายในวัดยังเป็นพิพิธภัณฑ์สำหรับเก็บรักษาพระพุทธรูปและวัตถุโบราณจำนวนมาก  เป็นอีกหนึ่งที่ที่สวยงามที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด

เมือง วังเวียง

อยู่ห่างจากตัวเมืองเวียงจันทน์ไปทางเหนือประมาณ 150 กิโลเมตร แต่ต้องใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง วังเวียงมีสภาพภูมิประเทศที่โดดเด่นด้วยภูเขาหินปูนที่ตั้งตระหง่านเรียงรายเป็นแนวยาวด้วยจังหวะสูง-ต่ำล้อมรอบเมือง มีแม่น้ำไหลผ่าน สวยงามน่าประทับใจจนได้รับฉายาว่า “กุ้ยหลินเมืองลาว” ธรรมชาติและอากาศบริสุทธิ์เงียบสงบ อีกทั้งวิถีชีวิตของชาวบ้านที่นี่ยังคงเรียบง่าย มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่ามาเยือน

สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำคือ

Photo by freepik (31MAY2022)

1. ถ้ำจัง (Jang Cave)
ถ้ำขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงที่สุดในวังเวียงและเป็นสถานที่ยอดนิยมที่มีนักท่องเที่ยวเดินไปเป็นจำนวนมาก หนึ่งในที่สุดของไฮไลท์ของธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจของเมืองวังเวียง ห่างจากเมืองวังเวียงประมาณ 1 กิโลเมตร โดยนักท่องเที่ยวจะต้องเดินผ่านสะพานข้ามแม่น้ำซอง หรือที่เรียกกันว่า สะพานส้มที่สีสวยสะดุดตาพร้อมกับฉากพื้นหลังเป็นภูเขาสูงชันเด่นตระหง่านไปยังอีกฟากของแม่น้ำ  สำหรับการสำรวจถ้ำจังนั้น จะต้องเดินขึ้นบันได 147 ขั้น เป็นทางลาดชัน เพราะฉะนั้นจึงควรฟิตร่างกายสักหน่อยก่อนมาเที่ยว หน้าปากถ้ำสามารถมองเห็นวิวเมืองวังเวียงได้สวยงาม เห็นลำน้ำซองไหลผ่าน คำว่า จัง ในที่นี้ หมายถึง หนาวเย็นจนตัวสั่นอาการ ‘จัง’ นั้นเอง ภายในถ้ำจะได้สัมผัสกับหินงอกหินย้อยต่างๆที่สวยงามพร้อมอากาศที่หนาวเย็นตลอดทางเดิน เป็นถ้ำที่ให้ทุกคนรู้สึกเย็นแบบที่ไม่เคยเที่ยวถ้ำที่ไหนมาก่อน มีแสงไฟเปิดให้ความสว่างตลอดทางทำให้บางจุดเห็นหินงอกหินย้อยที่เป็นประกายสวยงามมาก อีกทั้งยังมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำซองกับทุ่งนาสีเขียวของเมืองวังเวียงได้อีกด้วย

Photo by freepik (31MAY2022)

2. บลูลากูน (Blue Lagoon)
ที่เที่ยวที่มาถึงวังเวียง แล้วพลาดไม่ได้ก็คือ บลู ลากูน (Blue Lagoon) สระน้ำสวยใสสีฟ้าราวกับคริสตัน เป็นสระน้ำที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถลงไปดำผุดดำว่าย เล่นน้ำได้อย่างสบายใจ มุมไฮไลท์คือ ชิงช้าเชือกที่อยู่ด้านข้างของ บลู ลากูน ที่เราสามารถปีนขึ้นไปนั่งสวยๆ เล่นน้ำได้อีกด้วย การเดินทางสะดวก ตั้งอยู่ไม่ไกลจากที่พักและที่เที่ยวอื่นๆของวังเวียงมากนัก นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร เครื่องเล่นเป่าลม ที่นั่งดูปลาชิลๆและมีซิปไลน์ให้เล่นด้วย ด้านบนอยู่ในบริเวณเดียวกับบลูลากูนก็มีถ้ำปูคำให้นักท่องเที่ยวได้ไปสำรวจกันด้วย

https://www.tourismlaos.org/wp-content/uploads/2019/12/vang-xieng-1030x515.jpg
Photo by tourismlaos (27MAY2022)

3. แม่น้ำซอง (Nam Song River)
แม่น้ำซอง (Nam Song River) เป็นแม่น้ำสายหลัก เรียกได้ว่าเป็นหัวใจของวังเวียงเลยทีเดียวค่ะ นอกจากการล่องเรือ หรือ พายคายัคในแม่น้ำซองแล้ว เสน่ห์ของการมาเที่ยววังเวียงอีกอย่างก็คือ การล่องห่วงยางในแม่น้ำซอง หรือ Tubing เราสามารถเช่าห่วงยางจากร้านที่อยู่ในตลาด แล้วก็ไปที่จุดเริ่มล่องห่วงยางถ้าไม่แน่ใจสามารถสอบถามจากร้านเช่าห่วงยางได้ค่ะ วิธีล่องก็คือ ให้น้ำพัดไหลไปเรื่อยๆ แบบเอื่อยๆ ระหว่างนั้นก็สามารถแวะระหว่างทาง จะมีร้านค้าขายเครื่องดื่มเย็นๆ ให้เราได้ติดไม้ติดมือไปได้ด้วยระหว่างล่องห่วงยาง จะใช้เวลาประมาณ 45 นาที – 1 ชั่วโมง

https://www.tourismlaos.org/wp-content/uploads/2019/12/Elephant-cave-tham-xang.jpg
Photo by tourismlaos (27MAY2022)

4.ถ้ำช้าง (Tham Sang / Elephant Cave)
เป็นอีกถ้ำที่มีธรรมชาติที่สวยงาม และมีความน่าอัศจรรย์ที่หินงอกหินย้อยในถ้ำ มีลักษณะเป็นรูปช้างอย่างชัดเจน ชาวบ้านจึงเรียกว่า “ถ้ำช้าง” นั่นเองค่ะ ตั้งอยู่ที่ บ้านนาดาว เป็นถ้ำเล็กๆ ภายในมีพระพุทธรูป และรอยพระพุทธบาท ที่แห่งนี้จึงเป็นสถานที่เคารพบูชาของชาวบ้านในวังเวียง

เมืองเวียงจันทน์

อยู่ใกล้กับชายแดนจังหวัดหนองคายของไทย ใช้รถมาตรฐาน 2 เดินรถผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 หนองคาย-เวียงจันทน์ ด้วยระยะทาง 27 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง นักท่องเที่ยวที่สนใจกับรถไฟฟ้าเส้นทางลาว-จีน ก็สามารถเดินทางมาที่จังหวัดหนองคาย แล้วมาต่อรถไฟที่เวียงจันทน์ได้เลย เวียงจันทน์เป็นที่รู้จักจากการเป็นที่ตั้งของพระธาตหลวง อนุสรณ์สถานแห่งชาติลาวที่สำคัญที่สุด ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะสัญลักษณ์ประจำชาติและศาสนาพุทธในประเทศลาวบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของวัดสำคัญหลาย ๆ แห่ง เช่นหอพระแก้ว ซึ่งเคยเป็นที่ประดิษฐานของพระแก้วมรกต

สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำคือ

https://www.tourismlaos.org/wp-content/uploads/2019/12/putaxay-1.jpg
Photo by tourismlaos (27MAY2022)

1. ประตูชัย หรือ ปะตูไซ เวียงจันทน์
“ประตูไซ” (Patuxai) หรือ ประตูชัย เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่สำคัญของ ประเทศลาว สร้างขึ้น เพื่อ เป็นอนุสรณ์สถาน เพื่อระลึกถึงประชาชนชาวลาวผู้ที่เสียสละชีวิต ในสงคราม ก่อนหน้าการปฏิวัติ ของ พรรคคอมมิวนิสต์ ครับ ความสวยงามของประตูชัย นั้นมีลักษณะสถาปัตยกรรม ที่ได้รับอิทธิพล มาจากประตูชัย ใน กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ประตูชัย (Patuxay Monument) ตั้งอยู่ที่ กรุงเวียงจันทน์ อนุสรณ์สถานที่รำลึกถึงวีรชนผู้ร่วมรบในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ทำให้การปักหมุดมาเที่ยวที่นี่เหมือนเป็นสัญลักษณ์ของการมาเที่ยวเวียงจันทน์เลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปสวยๆ กันอีกด้วย

https://www.laostourism.org/wp-content/uploads/2015/08/Laos-wat-ho-phra-keo-1.jpg
Photo by tourismlaos (27MAY2022)

2. หอพระแก้ว (Hor Phakeo Museum)

สำหรับหอพระแก้วที่เห็นในปัจจุบัน เป็นอาคารที่ถูกบูรณะขึ้นมาใหม่ในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2480 – 2483 โดยอาศัยเค้าโครงและรูปแบบเดิมของตัวอาคารเป็นหลัก และรัฐบาลของ สปป.ลาว ได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์หลวงเพื่อเปิดรับให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้ามาเยี่ยมชมและศึกษาเรื่องราวความเป็นมาต่าง ๆ เกี่ยวกับสปป.ลาวซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกเข้ามาเยี่ยมชมอย่างไม่ขาดสายเที่ยวหอพระแก้วแห่งเวียงจันทน์ สิ่งหลงเหลือทางประวัติศาสตร์ของแผ่นดิน งานสถาปัตยกรรมอันเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วแห่งนี้ซึ่งมีสีทองอร่ามงดงามท่ามกลางความเขียวขจีของธรรมชาติและต้นไม้น้อยใหญ่ซึ่งนอกจากภายในส่วนของภายในบริเวณหอพระแก้วแล้วยังได้มีการจัดแสดง โบราณวัตถุ และของล้ำค่าต่าง ๆ มากมายทั้งที่ตั้งอยู่ภายในและรายล้อมตัวอาคารของหอพระแก้ว อาทิ พระพุทธรูปสำคัญ แท่นศิลาจารึก พระแท่นบัลลังก์ปิดทอง สำหรับพระมหากษัตริย์ของลาว กลองสำริดประจำราชสำนัก จารึกพระไตรปิฎกโบราณฉบับภาษาขอม บานประตูแกะสลักด้วยไม้ขนาดใหญ่ซึ่งมีลวดลายศิลปะแบบลาวที่มีความวิจิตรงดงามยิ่ง ฯลฯ แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าการเข้าไปเยี่ยมชมภายในพิพิธภัณฑ์หลวงแห่งนี้ห้ามถ่ายรูปภายในอาคารโดยเด็ดขาด

https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0#/media/%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%A5%E0%B9%8C:Buddha_Park.jpg
Photo by wikipedia (27MAY2022)

3. สวนพระ (Buddha Park)
สวนพระ หรือ เชียงควน เป็นอุทยานรูปปั้นที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเวียงจันทน์ไป 25 กิโลเมตร บนคุ้งแม่น้ำแม่โขง ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่วัด แต่อุทยานนี้บางครั้งก็ถูกเรียกว่า วัดเชียงควน เซียงควน แปลว่า เมืองแห่งดวงวิญญาณ ภายในประกอบไปด้วยรูปปั้นรูปเคารพ และพระพุทธรูปราว 200 องค์ และหากใครมาที่นี่แล้วก็จะเห็นงานปูนปั้นรูปทั้งพุทธ และฮินดู ผสมผสานกัน อุทยานแห่งนี้สร้างโดยปู่บุญเหลือ สุรีรัตน์ นักวิปัสสนาชาวไทย สวนแห่งนี้มีลักษณะที่คล้ายคลึงกับสวนแห่งโบมาร์โซ ที่แคว้นลัตซีโย ประเทศอิตาลี

https://www.tourismlaos.org/wp-content/uploads/2019/12/that-luang.jpg
Photo by tourismlaos (27May2022)

4.พระธาตุหลวง (Pha That Luang)
พระธาตุหลวง เวียงจันทน์ หรือ พระเจดีย์โลกะจุฬามณี เป็นศาสนสถานที่สำคัญที่สุดในลาว เป็นปูชนียสถานสำคัญมากๆ แห่งเวียงจันทน์ เรียกได้ว่าใครมาเวียงจันทน์แล้ว ไม่ได้มาไหว้พระธาตุหลวง แทบเรียกได้ว่า มาไม่ถึงเวียงจันทน์เลยทีเดียว เพราะตามประวัติศาสตร์ของลาวนั้น พระธาตุหลวงถูกสร้างขึ้นพร้อมๆ กับการสร้างเมืองเวียงจันทน์ โดย พระเจ้าจันทบุรีประสิทธิศักดิ์ เจ้าเหนือหัวผู้ครองนครเวียงจันทน์พระองค์แรกนั่นเอง พร้อมกับพระอรหันต์ 5 องค์ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ อีกทั้งตามตำนานกล่าวว่าพระธาตุหลวงมีประวัติการก่อสร้างนับพันปีเช่นเดียวกันพระธาตุพนมในประเทศไทย

https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87#/media/%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%A5%E0%B9%8C:Wat_Si_Muang_2020_-_2.jpg
Photo by wikipedia (27MAY2022)

5.วัดศรีเมือง (Wat Si Muang)
วัดสีเมือง หรือ วัดศรีเมือง เป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ของลาว เพราะสถานที่ตั้งของ เสาหลักเมืองเวียงจันทน์ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2106 ในสมัยของ พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ค่ะ และถือเป็น 1 ใน วัด 5 ศรี ของเวียงจันทน์ คือ ศรีเมือง ศรีพูล ศรีฐาน สีบัวบาน และ ศรีหอม ซึ่งในสมัยโบราณ มีความเกี่ยวข้องกับการทำพิธีสำคัญของกษัตริย์ เช่น พิธีราชาภิเษก ที่จะต้องนำน้ำพุทธมนต์จาก วัด 5 ศรี มาประกอบพิธีนั่นเอง ภายในวัดศรีเมืองนั้นมี พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ประดิษฐานอยู่ เป็นที่สักการะบูชาของชาวเวียงจันทน์ เชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก ไม่ว่าใครมาขอพรก็จะสมปรารถนา อีกทั้งภายในวัดยังมีกำแพง และเพดานด้านในของวัดมีความงดงามมากๆ

The ancient Wat in Vientiane, Laos Photo by freepik

6. วัดอินแปง (Wat Inpeng)
วัดอินแปง เวียงจันทน์ เป็นวัดเก่าแก่ ซึ่งไม่ทราบว่าสร้างขึ้นสมัยใด แต่มีปรากฏศิลปะวัตถุต่างๆ เป็นวัฒนธรรมสมัยมอญและขอม สันนิษฐานว่า คำว่า อินอาจนำมาจากคำว่า พระอินทร์เป็นไปได้ว่าสร้างขึ้นเพื่อเป็นศาสนาสถานของศาสนาพราหมณ์ หรือ สถานที่ทางศาสนาสมัยมอญหรือขอม ค่ะ ความโดดเด่นภายในวัดคือ หอพระไตรปิฎก ศิลปะล้านช้างเพียงแห่งเดียวที่เหลือรอดจากการถูกทำลายในสมัยเจ้าอนุวงศ์ ฐานเป็นบัวเข่าพรหมที่มีลวดบัวแบบลาวอย่างซับซ้อน ผนังด้านนอกประดับด้วยปูนปั้น โดยแบ่งเป็นช่องๆ เป็นภาพสวรรค์ ป่าหิมพานต์ ด้านในมีหงส์หันเข้าซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะล้านนา เป็นอีกวัดหนึ่งในเวียงจันทน์ที่สวยงามและมีความสำคัญอย่างมาก

https://www.tourismlaos.org/wp-content/uploads/2022/03/52.%E0%BA%A7%E0%BA%B1%E0%BA%94%E2%80%8B%E0%BA%AA%E0%BA%B5%E2%80%8B%E0%BA%AA%E0%BA%B0%E2%80%8B%E0%BB%80%E0%BA%81%E0%BA%94-1030x773.jpg
Photo by tourismlaos (27MAY2022)

7. วัดสีสะเกด (Wat Sisaket)
วัดสีสะเกด เวียงจันทน์ สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2361 โดย เจ้าอนุวงศ์ ที่นี่เป็นทั้งวัดและพิพิธภัณฑ์ในเวลาเดียวกัน ซึ่งภายในเก็บรวบรวมพระพุทธรูปไว้เป็นจำนวนมาก ถึงราวๆ 16,000 องค์เลยทีเดียว มีพระพุทธรูปทุกปางให้เราได้เยี่ยมชมความสวยงามและโดดเด่นของวัดแห่งนี้คือ  สิมและหอไตร ได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะรัตนโกสินทร์ โดยรอบปรากฏพาไลซึ่งคล้ายคลึงอย่างมากกับอุโบสถในศิลปะรัตนโกสินทร์หลายแห่ง ซุ้มประตูและหน้าต่างเป็นทรงมณฑป ซึ่งคล้ายคลึงกับอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามในกรุงเทพฯ แต่มีหลังคาตามแบบล้านช้าง เป็นวัดที่ไม่ได้ถูกทำลายจากการบุกรุกของสยาม สันนิษฐานว่า ด้วยความที่มีสถาปัตยกรรมคล้ายคลึงกับศิลปะรัตนโกสินทร์ จึงทำให้วัดสีสะเกด รอดพ้นจากการเผาทำลายจากสยาม

หากสนใจอยากท่องเที่ยวสถานที่ในประเทศไหนเพิ่มเติม
สามารถแอดไลน์ @Dhakulchan หรือเพจ Facebook , Instagram  “Nice holidays Discovery”
เพื่อสอบถาม ดูโปรแกรมทัวร์ หรือ สถานที่ท่องเที่ยวอีกหลากหลายประเทศที่น่าสนใจได้เลยย และรอติดตามบล็อคต่อไปได้เลยนะค่า ว่าจะนำประเทศไหน สถานที่ใดที่สวยๆมาแนะนำกันอีก หรือ หากเพื่อนๆสนใจประเทศไหนเป็นพิเศษ ที่อยากให้ทางเรารีวิว สามารถอินบล็อคเข้ามาได้เลยนะค่า

รายละเอียดโปรแกรมทัวร์เที่ยวลาว ดูได้ที่ลิงค์นี้เลยค่ะ
https://www.dhakulchan.org/go/g0P1c2R

ติดต่อทีมงาน ตระกูลเฉินฯ :
☎️020266525 | 022744216 (auto)
📲0818453303
📲0846763332
📝โทรช่องทางไลน์ https://lin.ee/ZsGb1Ch